นักธุรกิจเพชรพันล้าน “ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ” มุ่งหน้าหาธรรม ลด ละ กิเลส

นักธุรกิจเพชรพันล้าน “ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ” มุ่งหน้าหาธรรม ลด ละ กิเลส

 

 

 

 

เรื่อง : สุทธิคุณ  กองทอง


นักธุรกิจเพชรพันล้าน

“ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ”  มุ่งหน้าหาธรรม ลด ละ กิเลส



เมื่อไม่นานมานี้เจ้าแม่วงการเพชร เจ้าของแบรนด์ “เซ็นต์ โทรเพต์ ไดมอนด์”และดีไซเนอร์คนเก่งอย่าง อ้อย-อัจฉราวดี วงศ์สกล ได้โบกมือลาธุรกิจค้าเพชร เพื่อหันหน้าสู่ธรรมะแบบเต็มตัว หลายคนที่ยังห่างไกลจากธรรมอาจสงสัยว่า การศึกษาธรรมะแท้จริงแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ขนาดนี้เชียวหรือ

วันนี้  CHABGE into มีข้อมูลมาสนับสนุนในกรณีธรรมะเปลี่ยนชีวิตได้จริง เมื่อ ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัท เจม พีส บาย ชูชัย จำกัด นักธุรกิจเพชรพันล้าน ได้เดินหน้าสู่พระธรรมด้วยการปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งมั่นกับ หลวงพ่อพิชัย สุธมฺมสุชาโต ศูนย์ปฏิบัติธรรม เมืองอริยะ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยถามว่่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจ  ทำให้เขาต้องเดินหน้าปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเช่นนี้  เพื่อหาคำตอบเรา  จึงได้ติดตามคุณชูชัยไปปฏิบัติธรรมที่เมืองอริยะเป็นครั้งที่สอง



//หนังสือธรรมะคือจุดเริ่มต้น

สิ่งที่ได้เห็นแทบไม่น่าเชื่อ เจ้าของร้านเพชรพันล้านจะมานั่งปฏิบัติธรรม สนทนาธรรม ได้ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ แล้วก่อนรับประทานอาหารเช้า ยังได้เห็นคุณชูชัยและญาติธรรม กล่าวขอบคุณอาหารว่า ”อาหารที่กินไม่ได้  ต้องการนำมาบำรุงบำเรอให้สวยงาม แต่เป็นการเอื้อให้ร่างกายเราอยู่ได้ อย่าไปยึดติดกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้” พอรับประทานอาหารเสร็จยังได้เห็นเขาเดินไปล้างจานด้วยตนเอง

เสร็จภาระกิจในช่วงเช้า คุณชูชัย มีสีหน้าที่เอิบอิ่มไปด้วยบุญ ได้เดินมาทักทายอย่างเป็นกันเอง  พร้อมเล่าถึงที่มาของการปฏิบัติธรรมให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นเลยเป็นคนชอบอ่านหนังสือธรรมะ  เช่น ธรรมะให้สติ ให้มีความสุข รวมทั้งหนังสือแนวปรัชญาชีวิต "อยู่อย่างสง่า"ของศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ เพราะทำธุรกิจไม่มีที่ปรึกษา หนังสือเหล่านี้เหมือนเป็นเพื่อนแล้วสอนให้เป็นคนอดทน

หลายปีที่ผ่านมาได้ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี แต่ได้อะไรไม่มาก  กระทั่งปีที่ผ่านมาทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน จนมีน้องชื่อแหมม่เป็นเซลล์ที่ติดต่อกันเป็นประจำ ชวนให้ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อพิชัย หลายครั้งที่เจอแหมม่ก็จะพูดเชิงบ่นว่า อยากจะพาไปปฏิบัติธรรมเหลือเกิน และทนคำรบเร้าไม่ไหวเลยรับปากไปว่า ขอจัดงานเพชรใหญ่ในชีวิตให้เสร็จเสียก่อน  แล้วจะไป(เขาทำน้ำเสียงดูอ่อนล้าเต็มที)




//
นั่งสมาธิให้สติ เบา สบาย

ครั้งแรกที่ตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม เขากลัวจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน แต่น้องแหมม่ต่อรองอยู่วันเดียวก็ได้  แต่ขอให้ลองสนทนาธรรมกับหลวงพ่อพิชัยสัก 4 ชั่วโมง อาจได้ข้อคิดดีๆ  จากนั้นได้เริ่มปฏิบัติธรรม  วันแรกนอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีความกังวลต้องตื่นตีห้าครึ่ง แต่ที่แปลกอดนอนตลอดคืนกลับไม่รู้สึกอ่อนเพลีย และมีความรู้สึกจิตใจเบา สบาย รู้ทันทีว่าชีวิตที่อยู่ต่อไปจะต้องทำอย่างไร  และที่นี่จะไม่เดินจงกรม แต่สอนให้นั่งสมาธิเพื่อให้มีสติ 


ต่อมาเขาได้มีโอกาสสนทนาธรรม และได้ถามหลวงพ่อถึงปัญหาคาใจว่า ทำไมศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ถึงมีที่พักอย่างดี มีทั้งแอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ทุกอย่างกระจ่างเมื่อหลวงพ่ออธิบายให้ฟังว่า “เพราะมนุษย์มันยังติดยึดกิเลสกันเยอะ ยังติดสุขอยู่ ถ้ามาแล้วเห็นความลำบากกันก็จะไม่อยากมา” พอคุณชูชัยได้คำตอบจากหลวงพ่อแล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่า นี่คงเป็น กุศโลบาย เพื่อให้คนอยากเดินทางมาปฏิบัติธรรม
นั่นเอง

//กรรม!...ลิขิตชีวิต

ระหว่างที่คุณชูชัยสนทนาธรรม  ยังได้มีคำถามหลวงพ่ออีกว่า คนเราทำบุญได้บุญจริงหรือไม่ คำตอบที่ได้เขาถึงความกระจ่างและเข้าใจ โดยหลวงพ่อบอกว่าได้บุญจริงแท้แน่นอน เราอยากรู้ว่าชาตินี้ที่เราเกิดมา บางคนแขนด้วน ตาบอด ยากจนแสนเข็ญ ท่านบอกว่าอยากรู้ก็ให้พึงสังวรระลึกเอาเลยว่า  “เพราะชาติที่แล้วทำอะไรไว้บ้าง ชาตินี้ควรจะต้องรู้ว่าอะไรที่ต้องทำ แต่ถ้าชาตินี้ไม่สร้างบุญเพิ่ม จะเห็นว่าบางคนอยู่ดีๆ กลับไม่มีแผ่นดินอยู่ก็มี” (เขายิ้มแล้วบอกว่าหลวงพ่อพูดให้ฟังแบบนี้จริงๆ)




หลวงพ่อยังให้ข้อคิดอีกว่า ลาภยศสรรเสริญได้มาจากจิตที่บริสุทธิ์ ต่างยังแสวงหา และต่างยังยึดติด “เราก็ตกใจเลยถามหลวงพ่อว่า กำลังเปิดร้านให้ครบ 10 สาขา ตรงนี้ผิดไหม หลวงพ่อบอกว่า จริงๆ เป็นไปได้อยากให้ละวาง แต่ถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ สิ่งที่ทำต้องยกเหนือใจแล้วต้องมีสติ ไม่หวั่นไหวกับจิตที่สำเร็จหรือไม่สำเร็จ แต่ต้องมีเจตนาบริสุทธิ์ว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่ถ้าทำไปเพื่อทานภาวนา  ก็จะได้บุญกุศลแถมได้อานิสงค์  ในการภาวนานี้ดีถ้านำเงินนั้นมาต่อยอดบุญด้วยการทำทานทำกุศล แต่จิตต้องพึงมีสติปัญญารักษาใจตลอดเวลา”นี่เป็นการปฏิบัติธรรมที่ทำให้เขาเข้าใจชีวิตมากขึ้น

และการนั่งสมาธิได้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว โดยคุณชูชัยบอกว่า “ชีวิตในวันนี้ต้องนั่งสมาธิประมาณ 15 นาที หรือ 20 นาที ต่อวันเพื่อตัดกิเลส แล้วการนั่งสมาธิมีหลายแบบ โดยหลวงพ่อท่านจะสอนให้เพ่งไปที่ลมหายใจ เพ่งไปที่รูป เพ่งไปที่ศีล ที่สำคัญใจเราอย่าว๊อกแว๊ก ถ้าเรานั่งได้ก็จะทำให้เรามีสติ ตราบใดที่เรามีสติก็จะทำให้เราเริ่มรู้ ว่าอะไรถูกต้อง อะไรผิด อะไรปล่อยวาง อะไรละได้ อะไรละไม่ได้”


//“บาปกรรม”ลบล้างไม่ได้

ไม่โทษใคร ไม่โกรธใคร ให้อภัย นี่คืออภัยทาน ที่เป็นบุญสูงสุด คุณชูชัย บอกว่า ถ้าคนเราคิดได้แบบนี้ก็จะไม่เกลียด ไม่โกรธ ทำให้เข้าใจชีวิต เพราะหลวงพ่อยังสอนว่า จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน ถ้าคิดว่าจะเด่นก็ต้องยอมรับตรงจุดนั้นให้ได้ ที่สำคัญต้องรู้จักการให้อภัย ความกังวลอยู่ที่ไหน ความทุกข์อยู่ที่นั่น แค่คิด 10 นาทีว่ามีใครมาว่า  เราก็ทุกข์ไป 10 นาที ยิ่งคิดนาน 10 ชั่วโมง เราก็ทุกข์ไปถึง 10 ชั่วโมงเหมือนกัน “มีเพื่อนบางคนยืมเงินไปเป็นล้านบาทไม่ยอมให้ ถ้าเป็นสมัยก่อนจะไม่ยอม แต่วันนี้ธรรมะสอนให้เราเป็นผู้ให้ ไม่คิดพยาบาท คิดเพียงว่าเงินที่เพื่อนไม่ให้  ชาติที่แล้วเราอาจไปยืมแล้วไม่คืนเขา เราคิดเท่านี้ก็ทำให้เราสบายใจ

“ทุกวันยังต้องแผ่เมตตาให้กับสัตว์โลก ให้เทวดาฟ้าดินที่ปกป้องตัวเรา ให้คุณบิดามารดาที่ดูแลเรา ให้ครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนเรา ให้เพื่อนฝูง ให้สัตว์เลี้ยง และให้ญาติพี่น้อง ไม่ลืมที่จะต้องให้เจ้ากรรมนายเวรตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน ทั้งที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ ถ้ามีอะไรที่เบียดเบียนกันก็ขอให้อโหสิ แล้วยังต้องแผ่ให้เทพพราหมณ์ 16 ชั้นฟ้า 16 ชั้นดิน เราก็จะเกิดความสุข และหลวงพ่อยังบอกว่าบาปที่ทุกคนทำมา  ไม่มีทางล้างออกได้ นอกจากบุญเท่านั้น”


นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของ “ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ” ที่ใช้ธรรมะหยุดความอยาก แปรเปลี่ยนเป็นผู้ให้  เพียงเท่านี้ใจก็เป็นสุข