แผนเขมือบสถานีรถไฟหัวลำโพงทีละคำเพื่อยกพื้นที่หัวลำโพงให้เจ้าสัว ใช่หรือไม่

แผนเขมือบสถานีรถไฟหัวลำโพงทีละคำเพื่อยกพื้นที่หัวลำโพงให้เจ้าสัว ใช่หรือไม่

 

 

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

แผนเขมือบสถานีรถไฟหัวลำโพงทีละคำเพื่อยกพื้นที่หัวลำโพงให้เจ้าสัว ใช่หรือไม่
 
 
 
การเปิดรับฟังความเห็นทุกภาคส่วนแบบกำมะลอโดยกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ เมื่อวันที่14 ธค.2564 ที่ผ่านมา ถือว่ามีเจตนาไม่สุจริต ตรงไปตรงมา เพราะการใช้คนไม่กี่คนมานั่งคุยกันบนเวทีแล้วอ้างว่าเป็นการรับฟังทุกภาคส่วนนั้น ถือเป็นการแอบอ้างที่น่าละอาย เพื่อให้บรรลุแผนหยุดการเดินรถไฟทั้งหมดมาที่สถานีกรุงเทพหัวลำโพง ซึ่งน่าจะมีแผน3ขั้นตอนเป็นอย่างน้อย ใช่หรือไม่
 
แผนขั้นที่1 จะลดจำนวนรถจากส่วนภูมิภาค 166 ขบวนที่เดินทางมายังปลายทางที่สถานีหัวลำโพง ในวันที่23 ธค.2564 โดยไม่เคยมีการสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนมาก่อน แต่ใช้วิธีหักดิบหยุดการเดินรถ ซึ่งเป็นการบอกเล่าของพนักงานการรถไฟฯที่ระบุว่ามีการสั่งหยุดเดินรถภูมิภาคเข้าสถานีหัวลำโพง หยุดการจองตั๋วมาที่หัวลำโพงมาก่อนหน้าที่จะเปิดเวทีรับฟังแบบกำมะลอด้วยซ้ำ
 
แผนขั้นที่2 ยอมให้รถชานเมืองเข้ามาสถานีหัวลำโพง 22ขบวน แต่ด้อยค่าว่าถ้าเทียบกับจำนวนคนเดินทางทั้งหมดในกทม.ก็แค่ 0.018% เท่านั้น เพื่อจะอ้างว่าไม่คุ้มค่า และยกเลิกในลำดับต่อไป
 
แผนขั้นที่3 จะอ้างเรื่องการสร้างอุโมงค์เพื่อให้รถไฟฟ้าสายสีแดงผ่านเข้ามาที่สถานีหัวลำโพง จำเป็นต้องหยุดเดินรถไฟทั้งหมด และเมื่อไม่มีรถไฟไทยแล่นบนรางทั้งหมด ก็จะเป็นโอกาสให้ไปเปลี่ยนสีผังเมืองจากสีน้ำเงินเป็นสีแดง เพื่อประเคนให้กับเจ้าสัวมาสร้างห้างสรรพสินค้า และมิกซ์ยูสต่อไป ใช่หรือไม่
 
ดังนั้นการที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวว่ารมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างการเร่งรวบรวมข้อมูลหลังจากเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ในหัวข้อ “อนาคตสถานีหัวลำโพง ประวัติศาสตร์คู่การพัฒนา” ต้องขอบอกว่า เป็นการประชุมที่หลอกลวงกำมะลอ เป็นการทำลายอนาคต ทำลายการพัฒนาและทำลายประวัติศาสตร์ของหัวลำโพงจึงไม่ควรนำมาอ้างว่าเป็นการรับฟังความเห็นทุกภาคส่วนได้เลย
 
สหภาพการรถไฟ และประชาชนทั้งประเทศควรต่อต้านการสั่งการให้หยุดเดินรถไฟภูมิภาค 166 ขบวนเข้า ออก สถานีหัวลำโพง ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
 
การอ้างการลงทุนสถานีกลางบางซื่อ เพื่อปิดสถานีหัวลำโพงคือการผลักภาระให้ประชาชนต้องแบกรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ราคาแพง โดยเฉพาะในยามที่ประชาชนเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จากวิกฤตโควิด น้ำท่วม รัฐบาลไม่ควรสร้างภาระให้กับประชาชนด้วยการทำเช่นนี้
 
 
 
หยุดอ้างคำพูดสวยหรูจะพัฒนาหัวลำโพง โดยการหยุดเดินรถไฟ และให้เจ้าสัวมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อใช้หนี้อีกเลย การยกแอร์พอร์ตลิงค์ให้พวกเจ้าสัวมา
บริหารเป็นการให้ประโยชน์เจ้าสัวมากกว่าการใช้หนี้ให้การรถไฟฯ ใช่หรือไม่
 
เงินโอนสิทธิ์ 10,671ล้านบาทที่ต้องโอนให้รฟท.ภายในงวดเดียวตามสัญญา รัฐบาลยังยอมให้แก้สัญญาให้เจ้าสัวผ่อนได้6ปี ทั้งที่การก่อสร้างใช้เงินไปกว่า3หมื่นล้านบาท ได้เงินค่าโอนสิทธิหมื่นกว่าล้านบาท คุ้มกันแล้วหรือ!? พอกิจการเริ่มจะได้กำไร ก็ยกให้เจ้าสัว และแถมที่ดินที่มักกะสันอีก150ไร่ การรถไฟยังไม่ได้เงินค่าโอนสิทธิแต่ทีมเจ้าสัวได้เข้าไปบริหารเก็บค่าโดยสารแล้ว โดยรฟท.ไม่ได้ประโยชน์ที่เป็นไปตามสัญญา ใช่หรือไม่
 
สิ่งที่รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมทำมาหลายกรณี ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นการบ่อนเซาะรัฐวิสาหกิจของชาติ ให้ขาดทุนและผ่องถ่ายกำไรให้กลุ่มทุนด้วยการต่อสัมปทาน ให้สัมปทานมาโดยตลอด โดยเฉพาะการรถไฟของชาติที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มและพระราชทานที่ดินจำนวนมากเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน แต่ปรากฎว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนต่างๆบนภาระของประชาชน ใช่หรือไม่
 
รัฐบาลสมควรที่ให้มี 2สถานีในการเดินรถไฟโดยคงสถานีรถไฟหัวลำโพงเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์การเริ่มต้นระบบรางของประเทศไทยและสืบต่อเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชนเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ ไม่ควรบ่อนเซาะ บ่อนทำลายพระปณิธานของพระองค์
รสนา โตสิตระกูล
19 ธค. 2564