ทำอย่างไรในทางการแพทย์แผนจีน หากเกิด “ภาวะแท้งจนเป็นนิสัย”

ทำอย่างไรในทางการแพทย์แผนจีน หากเกิด “ภาวะแท้งจนเป็นนิสัย”

 

 

 

ทำอย่างไรในทางการแพทย์แผนจีน

หากเกิด “ภาวะแท้งจนเป็นนิสัย”

 

 

สามีภรรยาบางคู่มีลูกยากก็ลำบากมากพออยู่แล้ว แต่ฝันร้ายคงยังไม่เท่ากับการตั้งครรภ์แล้วเกิดภาวะแท้งบุตร ซึ่งการแท้งบุตรเพียงครั้งเดียวก็เป็นความรู้สึกที่แย่มากๆ แล้ว แต่บางคู่กลับเจอภาวะแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง เกิดความบอบช้ำทางจิตใจเป็นอย่างมาก หากเกิดภาวะการแท้งบุตรถึงสามครั้ง ทางการแพทย์เราเรียกกันว่า ภาวะแท้งจนเป็นนิสัย

            แพทย์จีนเชน ปรีชาวณิชวงศ์   แพทย์แผนจีนประจำหยินหยางคลินิก เปิดเผยว่า  “การแท้งบุตรบ่อยครั้งมีหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาทางพันธุกรรมของฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย อายุของฝ่ายหญิงที่ยิ่งอายุมากขึ้น คุณภาพไข่ด้อยลง ทำให้โอกาสแท้งบุตรสูงขึ้น คุณภาพน้ำเชื้อของฝ่ายชาย หรือสาเหตุจาก Antibody บางชนิดที่ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดในร่างกายฝ่ายหญิงหนืดขึ้น และส่งผลต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อน ไปจนถึงไม่ทราบสาเหตุของการแท้งบุตร

วิธีแก้ไขจำเป็นต้องตรวจหาสาเหตุต่างๆ และรักษาอย่างตรงจุด อาทิ การใช้ยา การเย็บปากมดลูก จนกระทั่งเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว นำตัวอ่อนที่ได้มาคัดความผิดปกติทางพันธุกรรม  ก่อนจะทำการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกอีกครั้ง โดยแพทย์แผนจีนมีมุมมองต่อภาวะแท้งจนเป็นนิสัยว่าอาจเกิดจากสาเหตุทั้ง 4 ดังต่อไปนี้

1. พลังไตพร่อง ฝ่ายหญิงมักจะมีอายุมาก หรือเจ็บอ็อดๆ แอ็ดๆ แต่เยาว์วัย  อวัยวะ ไต  ในทางแพทย์แผนจีนนั้นควบคุมระบบสืบพันธุ์ด้วย ซึ่งดูแลทั้งมดลูก รังไข่ การมีบุตรต่างๆ หากพลังไตอ่อนแอลง จะทำให้คุณภาพไข่ด้อยลง ทำให้การปฏิสนธิเป็นตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์และแท้งบุตรได้  แนวทางการรักษาจำเป็นต้องบำรุง ไต ด้วยการใช้ยาสมุนไพรจีน ร่วมกับการฝังเข็ม รวมถึงอาจจะทานอาหารบางชนิด เช่น เห็ดหูหนูดำ ถั่วดำ เป็นต้น ส่งเสริมรังไข่ให้ผลิตไข่ที่มีคุณภาพ และได้ตัวอ่อนสมบูรณ์

2. เลือดลมพร่อง ร่างกายจะอ่อนเพลีย ความดันต่ำ วิงเวียนศีรษะ ใบหน้าซีดเซียว หายใจตื้น ใจสั่นหวิว แสดงให้เห็นว่าเลือดลมซึ่งเป็นดั่งเชื้อเพลิงในการใช้ชีวิตไม่เพียงพอ ขนาดร่างกายตัวเองยังมีเชื้อเพลิงไม่พอใช้ จึงยิ่งไม่เพียงพอที่จะไปเลี้ยงตัวอ่อนให้เติบโตต่อไปได้ แนวทางการรักษาต้องใช้ยาสมุนไพรจีนและฝังเข็มเพื่อบำรุงเลือดลม ยาที่มักใช้บ่อย เช่น ปักคี้ ตังกุย โสม เป็นต้น  หลังรักษาผู้ป่วยจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีกำลังวังชา มีเลือดเพียงพอไปหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์ต่อไป

3. เลือดคั่ง จากภาวะความเครียด หรือการบริโภคของที่เย็นต่างๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น น้ำแข็ง ไอศกรีม การอยู่ในออฟฟิศที่เปิดแอร์แรงตลอดเวลา ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดลมติดขัด นานวันเข้าก็เกิดเป็นเลือดคั่ง ทำให้การลำเลียงขนส่งสารอาหารต่างๆ จากแม่สู่ลูกไม่ดีพอ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กได้ ลักษณะคล้ายกับสาเหตุจาก Antibody แนวทางการรักษาจำเป็นต้องกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น เช่น ยาสมุนไพรจีนกลุ่มกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ดอกคำฝอย  เป็นต้น ลักษณะคล้ายการใช้ยาละลายลิ่มเลือดจำพวก Baby Aspirin หรือ Heparin

4. เลือดร้อน ร่างกายฝ่ายหญิงมีธาตุร้อนมากเกินไป ยิ่งประกอบกับการกินอาหารที่เผ็ดร้อนต่างๆ ความเครียด ความโกรธ การนอนดึกที่ทำให้เลือดร้อน เมื่อตั้งครรภ์ เลือดจะไหลเวียนมากเกินไปจนเลือดออกทางช่องคลอด กลายเป็นภาวะแท้งคุกคามได้  มักพบอาการมีใบหน้าแดง คอแห้ง กระหายน้ำตลอดเวลา ท้องผูก อารมณ์ฉุนเฉียว แนวทางการรักษาจำเป็นต้องดับร้อน สงบเลือด ทำให้ครรภ์สงบลงได้ อาหารที่แนะนำมักจะเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เช่น สาลี่ แตงโม แตงกวา แตงร้าน มะระ เป็นต้น

การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนแนะนำให้เตรียมความพร้อมก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อยสามเดือน โดยที่ผู้ป่วยควรตรวจหาสาเหตุของการแท้งบุตรหลายครั้งก่อน หลังจากนั้นจึงปรึกษาแพทย์แผนจีนที่มีใบประกอบโรคศิลป์ ซึ่งออกโดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อแพทย์แผนจีนทำการตรวจวินิจฉัยร่างกายของผู้ป่วยแล้วจะใช้ยาสมุนไพรจีนควบคู่กับการฝังเข็มเพื่อบำรุงและปรับสมดุลอย่างเต็มที่ตามแต่ละสาเหตุของการก่อโรค ผู้ป่วยไม่ควรหาสมุนไพรกินเอง เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ และจะทำให้โรคมีความซับซ้อนมากขึ้น หลังจากเตรียมร่างกายแล้ว ผู้ป่วยสามารถที่จะลองปล่อยตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ หรือจะวางแผนทำเด็กหลอดแก้วเป็นลำดับถัดไปก็ได้

ในประเทศจีนใช้การรักษาแบบแพทย์แผนจีนควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างแพร่หลาย เป็นอีกทางเลือกในการเสริมให้ครรภ์แข็งแรง และมีบุตรอย่างปลอดภัย เติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 094-794-6006 หรือเข้าเยี่ยมชม Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/chenyinyangclinic ที่ตั้งคลินิก หยินหยางคลินิก 999/1-2 ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230