เที่ยว 7 วัน 7 สไตล์ ในมนต์เสน่ห์แห่ง “นานกิง”

เที่ยว 7 วัน 7 สไตล์ ในมนต์เสน่ห์แห่ง “นานกิง”

 

 

 

 

เที่ยว 7 วัน 7 สไตล์ ในมนต์เสน่ห์แห่ง “นานกิง”

 

นานกิง เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจียงซู และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองในภาคตะวันออกของจีน รองจากมหานคร
เซี่ยงไฮ้ แม้จะเป็นที่รู้จักในสายตาของชาวโลกจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นานกิงยังมีอีกหลายแง่มุมที่พร้อมเปิดรับให้นักเดินทางเข้ามาสัมผัส

 

 

 

ประวัติศาสตร์สิบราชวงศ์

นานกิง หรือ หนานจิง (Nanjing) แปลว่า “นครหลวงทางใต้” เป็นหนึ่งในเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศจีนหลายยุคหลายสมัย จนได้รับสมญานามว่า “เมืองหลวงสิบราชวงศ์” และเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่ยุคจักรวรรดิมาจนถึงการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศมาเป็นระบบสาธารณรัฐจีน ด้วยเหตุนี้นานกิงจึงมีสถานที่สำคัญมากมายที่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์

 

กำแพงเมืองราชวงศ์หมิง (Ming City Wall) หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของนานกิง ที่แสดงถึงความรุ่งโรจน์ในฐานะเมืองหลวงแห่งช่วงราชวงศ์หมิง ใช้เวลาในการสร้างถึง 21 ปี ใช้แรงงานกว่า 200,000 คน และใช้อิฐถึง 300 ล้านก้อน และมีอายุราว 600 ปี ความพิเศษของกำแพงเมืองราชวงศ์หมิง คือมีการสลักตัวอักษรพู่กันจีนไว้บนก้อนอิฐ ซึ่งทำให้กำแพงนี้เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์และมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมที่สำคัญของนานกิง

 

เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิง (The Porcelain Tower of Nanjing) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในสมัยราชวงศ์หมิง ภายหลังได้ถูกทำลายในช่วงเกิดกบฏไท่ผิงในปี ค.ศ.1856 จนเสียหายย่อยยับ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2010 มีการบูรณะเจดีย์ขึ้นมาอีกครั้งด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัย แม้จะมีหน้าตาแตกต่างจากในอดีต แต่สถานที่แห่งนี้ยังเป็นประจักษ์พยานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อยู่เคียงคู่กับนานกิงมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

เมืองหลวงแห่งแรกของรัฐจีนสมัยใหม่

นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของจีนสมัยจักรวรรดิในหลายราชวงศ์แล้ว นานกิงยังเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของสาธารณรัฐจีน ภายใต้การนำของ ดร.ซุน ยัตเซน มหาบุรุษผู้นำพาชาวจีนก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่มีมาอย่างยาวนานนับพันพันปีสู่ความเสมอภาค

 

สุสาน ดร.ซุนยัดเซ็น สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมา นานกิง คือการคารวะสุสาน ดร.ซุน ยัดเซน บิดาแห่งจีนยุคใหม่ ที่ตั้งอยู่บนเขาจิงซาน (ภูเขาสีม่วง) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีนทุกคน ซึ่งครอบคลุมอาณาเขตราว 80,000 ตารางเมตร ในเขตชานเมืองของนานกิง

 

พิพิธภัณฑ์นครนานกิง ในอดีตเคยเป็นที่ทำการของพรรคการเมืองก๊กมินตั๋ง มีอาณาเขตกว่า 70,000 ตารางเมตร นอกจากที่นี่จะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในจีนแล้ว ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด โดยรวบรวมโบราณวัตถุกว่า 420,000 ชิ้น หลากหลายประเภท ประกอบด้วยสมบัติของชาติกว่า 2,000 ชิ้น

 

ทัศยนียภาพที่งดงามที่สุดบนแม่น้ำแยงซีตอนใต้

นอกจากความเป็นมาทางประวัติแล้ว นานกิงยังคงมนต์ขลังของความยิ่งใหญ่และความร่มรื่น โอบกอดด้วยความงดงามของทะเลสาบ วนอุทยาน และแม่น้ำแยงซี คุ้มค่าแก่การเยี่ยมเยือนไม่แพ้เมืองยอดนิยมอื่นๆ อย่าง เซี่ยงไฮ้ หรือ ปักกิ่ง

 

วัดขงจื๊อ (Confucius Temple and Qinhuai River Scenic Area) วัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมท้องถิ่นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1034 และยังเป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของนานกิง บริเวณโดยรอบวัดขงจื๊อซึ่งติดกับ

 

 

แม่น้ำฉิงหวย ถูกยกให้เป็นย่านประวัติศาสตร์ที่มีความงดงามที่สุดในแถบทิศใต้ของแม่น้ำแยงซี ทุกวันนี้ย่านนี้ได้กลายเป็นแหล่งช้อปที่คราคร่ำไปด้วยนักเดินทาง ซึ่งยามราตรีจะสว่างไสวชวนมองด้วยแสงไฟจากโคมประดับตลอดแนวแม่น้ำ มีบริการล่องเรือในแม่น้ำฉิงหวยยามค่ำคืน ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่เมืองนี้

 

เวลาหยุดหมุนที่เมืองโบราณอู่เจิ้น

ใช้เวลาเดินทางด้วยรถเพียง 4 ชั่วโมงจากเมืองนานกิง ผ่านวิวข้างทางที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าเขา ก็จะได้พบกับเมืองโบราณอู่เจิ้นที่มีประวัติอารยธรรมยาวนานถึง 7,000 ปี ณ เมืองถงเซียง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของมณฑลเจ้อเจียง เมืองโบราณแห่งนี้แม้จะได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ยังคงมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นชุมชนจริงๆ โดยเฉพาะคนเก่าแก่ที่ช่วยกันอนุรักษ์เอกลักษณ์ท้องถิ่นไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งการทอผ้าไหม ย้อมผ้าฝ้าย ทำขนม ขณะที่บ้านบางหลังถูกดัดแปลงเป็นโฮมสเตย์ สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน

 

ช็อปเพลิน เดินชิลล์

นานกิงในปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ อุดมไปด้วยย่านช็อปปิ้งที่มีร้านรวงมากมายพร้อมรับนักท่องเที่ยวนับแสนในแต่ละวัน

 

ซินเจียโข่ว (Xinjiekou) เป็นทั้งศูนย์กลางธุรกิจ ศูนย์กลางการเดินทางขนส่ง และศูนย์กลางย่านวัฒนธรรม ตั้งอยู่บนถนนจงซาน ด้านทิศตะวันออกติดถนนฮองอูเหนือ เหมาะกับการเดินทอดน่อง ชมบรรยากาศเมืองยามค่ำคืน ซึ่งอาบไล้ไปด้วยสีสันเจิดจ้าของแสงไฟจากห้างแบรนด์เนมหรูหรา ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่นี่ห้อมล้อมไปด้วยร้านรวงมากมาย มีสินค้าให้เลือกซื้อละลานตา ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ตั้งแต่แบบคุณภาพดีราคาสบายกระเป๋า
แบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ สินค้ามือสอง สินค้านำเข้า หนังสือ โรงภาพยนตร์ รวมไปถึงของกระจุกกระจิก เล็กๆ น้อยๆ

 

ชวนชิมอาหารเลิศรสแบบฉบับนานกิง

สิ่งที่เติมความสนุกและสีสันให้กับการเดินทางคือการตระเวนชิม ลิ้มลอง หาของอร่อยๆ ร้านอาหารในนานกิงฝังตัวอยู่ตามตรอกซอกซอย ไล่เรียงไปตั้งแต่ร้านอาหารแบบแผงลอยท้ายตรอก ไปจนถึงเหลาหรูหราที่มีเสิร์ฟอาหารจีนแท้ๆ

 

ซื่อจือเฉียว (Shiziqiao) ตั้งอยู่ระหว่าง ถนนหูหนาน และหูเป่ย ในเขตกูโล๊ว ถนนสายนี้อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารหลากหลายประเภทและราคา ตลอดแนวยาวกว่า 300 เมตร มีทั้งตึกร้านอาหารนานกิง เสฉวน กวางตุ้ง ไปจนถึงร้านแผงลอยเล็กๆ

 

มิ่งหว่าหลัง (Mingwalang) มีของกินเล่นขายแทบทุกชนิดตั้งแต่ ปลาหมึกย่าง ปีกไก่ทอด แพนเค้ก ถัดมาอีกนิดจะพบร้านอาหารที่มีโต๊ะให้นั่งกินมากมาย แต่ละร้านล้วนดังระดับตำนานของเมืองนานกิงเลยทีเดียว มีทั้งร้านก๋วยเตี๋ยวที่กินกับหนังหมูทอดกรอบ เกี๊ยว ลูกชิ้น และข้าว

 

ไนท์ไลฟ์สไตล์นานกิง

ลืมภาพความทรงจำในหัวที่คุณเคยมีไปได้เลย หากคิดว่าหนานจิงมีแค่โบราณสถาน และแหล่งท่องเที่ยวเนือยๆ เนิบๆ หนานจิงในวันนี้มีแหล่งรวมตัวสำหรับนักท่องราตรีด้วยเช่นกัน

 

 

จิมมี่ส์ (Jimmy’s) บาร์แนวสปอร์ตสัญชาติอเมริกันกลางใจนานกิง ซึ่งซ่อนอยู่หลังศูนย์อาหารและเครื่องดื่มบนถนนชื่อกู เป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติที่มาทำงานในนานกิง มีทั้งเบียร์นำเข้าและเบียร์ท้องถิ่น รวมถึงพิซซ่าที่รสชาติดีที่สุดในเมืองไว้บริการ ในร้านยังมีจอทีวีแขวนรอบๆ เพื่อให้ลูกค้าได้จับกลุ่มสังสรรค์ พร้อมชมถ่ายทอดสดกีฬาชนิดต่างๆ

 

ซานโช แพนซ่า (Sancho Panza) ที่นี่เป็นเสมือนเวทีให้วงดนตรีท้องถิ่น และวงดนตรีต่างถิ่นแวะเวียนมาเปิดการแสดง ร้านซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินนี้ เชื่อมต่อกับโลกภายนอกด้วยบันไดเล็กๆ ใน อู่ไท่ซาน สเตเดี้ยม โดยแนวดนตรีในแต่ละคืนจะไม่ซ้ำกัน แต่ส่วนมากจะเป็นเพลงร็อค คันทรี่ และบลูส์ ในแต่ละคืนร้านจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ 21.00น.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเวลาที่เริ่มการแสดงพอดี ในร้านยังมีโต๊ะพูลไว้ให้ยืดเส้นยืดสายก่อนฟังเพลงด้วย

 

นานกิง ในวันนี้อาจจะเปลี่ยนผ่านสู่ด้านที่มีความเป็นเมืองมากขึ้น แต่ยังคงมนต์ขลังของความยิ่งใหญ่ เป็นส่วนผสมที่เข้มข้นลงตัวระหว่างความสง่างามทางประวัติศาสตร์ และความงดงามทางธรรมชาติ คุ้มค่าแก่การเยี่ยมเยือนไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในประเทศจีน มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินดอนเมืองทุกวัน โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 4 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ

 

ตารางบิน

 

เที่ยวบิน

ออก

ถึง

เวลาเดินทาง

เวลาถึงปลายทาง

วันเดินทาง

XW 888

14:00

18:50

กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)

นานกิง

ทุกวัน

XW 887

20:10

23:20

นานกิง

กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)

ทุกวัน

 

สามารถเช็คเที่ยวบิน โปรโมชั่น และสำรองที่นั่งได้ที่ http://www.nokscoot.com

 

 

 

 

 

 

 

สารถึงบรรณาธิการ

เกี่ยวกับ  นกสกู๊ต

นกสกู๊ต เป็นสายการบินร่วมทุนซึ่งก่อตั้งโดย นกแอร์ สายการบินพรีเมี่ยมโลคอสต์อันดับหนึ่งของไทย และ สกู๊ต สายการบินราคาประหยัดจากประเทศสิงคโปร์ นกสกู๊ต ให้บริการจากท่าอากาศยานดอนเมือง ในเส้นทางบินระยะกลางถึงระยะไกลด้วยเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-200 ปัจจุบันให้บริการเส้นทางบินไปยัง เมืองนานกิง ชิงเต่า เทียนจิน เสิ่นหยาง และต้าเหลียน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน นกสกู๊ต มุ่งเน้นการเพิ่มความสะดวกสบายควบคู่ความสนุกสนานในการเดินทางด้วยเที่ยวบินราคาประหยัด และคำมั่นสัญญาที่จะมอบความปลอดภัย ไว้วางใจได้ ความมีประสิทธิภาพ และความโปร่งใส่ในการให้บริการทุกเที่ยวบิน ผู้โดยสารของเราจะได้รับการบริการที่สะดวกสบายเสมอเมื่อเดินทางไปกับเรา

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NokScoot.com, Facebook.com/NokScoot หรือ Instagram.com/NokScoot

 

 

 

 

กมลลักษณ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา (มิ้น)

ผู้จัดการฝ่ายการประชาสัมพันธ์

บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด

โทร: 02-535-6262

อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.