เดินทาง...เดินธรรม ณ.ลำปาง CHANGE World Watch เรื่อง : ปราริชาติ ปลื้มจิตต์ตระกูล

เดินทาง...เดินธรรม ณ.ลำปาง CHANGE World Watch เรื่อง : ปราริชาติ ปลื้มจิตต์ตระกูล

 

 

 

CHANGE World Watch
เรื่อง : ปราริชาติ ปลื้มจิตต์ตระกูล

 


เดินทาง...เดินธรรม ณ.ลำปาง

 


การเดินทางครั้งนี้ เริ่มล้อหมุนตั้งแต่เช้ามืด มุ่งหน้าทางภาคเหนือของประเทศไทย จุดหมายอยู่ที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ด้วยมีภารกิจต้องไปทำ เราขับรถยนต์ส่วนตัวไปกันเอง ขับสบายๆ แบบประหยัดงบ ระยะทางก็เจ็ดร้อยกว่ากิโลเอง แวะพักร่างกายตามปั๊มน้ำมัน ดื่มน้ำทานข้าว ยืดเส้นยืดสายพอผ่อนคลาย แล้วลุยต่อแบบม้วนเดียวจบ เพราะตั้งใจไว้ตั้งแต่อยู่ กทม.เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว ขอใช้โอกาสนี้ไหว้พระทำบุญที่จังหวัดลำปางก่อน โดยได้ติดต่อที่พักค้างคืนในสนนราคา 500 บาทแบบไม่หรูแต่อยู่ได้ในเมือง ใกล้ถนนคนเดินเลยค่ะ


ขับมาตามเส้นถนนพหลโยธิน ก่อนถึงเมืองลำปาง ประมาณ 10 กว่ากิโล เราจะถึงอำเภอเกาะคาก่อน ให้ขับรถไปตามป้ายบอกทาง วัดพระธาตุลำปางหลวง สัญลักษณ์และเสน่ห์ถนนบริเวณนี้คงหนีไม้พ้น เสียงเกือกม้าที่ดังกึกกัก รถม้าพร้อมคนขับ ซึ่งบางคันก็มีนักท่องเที่ยวนั่งชมเมืองอยู่ด้วย เราขับรถมาจอดบริเวณฝั่งตรงข้ามของวัด ซึ่งจัดสถานที่ไว้สำหรับนักท่องเที่ยว วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งเด่นตระหง่านตระการตาสวยงาม ตามแบบฉบับล้านน้าไทย แต๊ๆเจ้า หายเหนื่อยหายเมื่อยกันเลยทีเดียว สำหรับคนชอบเที่ยววัดอย่างเรา


ภายในวัด แม้ผู้คนจะมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ใจเรากลับอิ่มเอมสดชื่น ส่งยิ้มให้กันฉันท์มิตร เพราะเรามีความเชื่อว่าทุกคนที่เข้ามา ล้วนพกใจดีๆ กันมาค่ะ พระธาตุลำปางหลวงเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวไว้ตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 และเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของไทย คงความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย อีกทั้งยังมีความเชื่อกันว่าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิด ปีฉลู ด้วย


เราได้กราบสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณวัดตามขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติ แบบชาวพุทธ และจากคำสอนจาก หลวงปู่ฝั้นอาจาโร ว่า ให้พากันเข้าวัด วัดดูจิตใจของเรานี่ล่ะ ต้องวัดเสมอ ให้รู้สติ รักษาใจให้ดี เมื่อใจดี ทำอะไรก็ดีทั้งนั้น และสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป เก็บไว้เป็นความทรงจำดี ๆ วัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นอีกสถานที่ห้ามพลาดเลยค่ะ ซึ่งมีอีกหลายจุดภายในบริเวณวัด ที่น่าสนใจและควรค่าแก่การจดจำเพื่อบันทึกเป็นเรื่องราวตามฉบับบุคคล สุดแต่ใจว่าใครชอบแบบไหน ธรรมแล้วใจเป็นสุข และอยู่ในระเบียบที่ทางวัดวางไว้


ออกจากวัด เราขับรถไปยังที่พัก ซึ่งอยู่ภายในตัวเมือง พักผ่อนตามอัธยาศัย และเตรียมเดินเท้าจากที่พัก ไปกาดกองต้า ถนนคนเดิน เมืองลำปาง ที่เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ในช่วงเย็น จนถึง ค่ำค่ะ ถนนเส้นนี้ตามประวัติ เคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของลำปาง พอเริ่มโพล้เพล้ ออกจากที่พัก มาเดินส่งยิ้มทักทาย ชาวเมืองลำปางและถามทาง ผู้คนที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใส และบอกให้เราอย่าลืมไปถ่ายภาพที่สะพานรัษฎาภิเศก ซึ่งเป็นอีกจุดแลนมาร์กอยู่ใกล้ตลาดด้วย ถนนคนเดินกาดกองต้า มีความเป็นธรรมชาติเหมือนกับถนนคนเดินส่วนใหญ่ค่ะ คือสองฝั่งทางจะมีร้านขายอาหาร ของฝากที่ระลึก ของทานเล่น ร้านกาแฟ ของพื้นเมือง และเกสต์เฮาส์ ละลานตาจริงๆ ยิ่งค่ำผู้คนก็ยิ่งมากมาย สำหรับคนรักการช้อป ชิม ชม ก็จะชิล และฟินส์ไปพร้อมกัน


อิ่มพุง สบายอารมณ์ แล้วก็เดินเท้าออกกำลังสบายๆกลับ เพื่อพักผ่อน เพราะต้องออกเดินทางกันแต่เช้ามืดมุ่งหน้าจังหวัดเชียงใหม่ต่อไปค่ะ ตื่นเช้ามาก่อนออกจากลำปางเราแวะ ซื้ออาหาร ขนมหวานและดอกไม้ ในตลาดเช้าซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสะพานรัษฎาภิเศก ใส่บาตรพระสงฆ์ ที่เริ่มออกบิณฑบาต กันแต่เช้ามืด แนวทางวิถีคนพุทธ และกรวดน้ำอุทิศบุญกุศลแด่มารดาผู้ประเสริฐผู้เป็นที่รักยิ่งซึ่งล่วงลับไปเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ตลอดจนทุกสรรพสิ่ง ตามความเชื่อสืบทอดกันมาในครอบครัวแต่โบราณค่ะ แค่นี้ก็เป็นสุขใจแล้ว ส่วนใครที่ชอบทานโรตี ใส่นม ข้างตลาดมีป้ายืนทอดขายบนรถเข็น แนะนำอร่อยค่ะ เติมพลังยามเช้าได้สดชื่นจัง


ก่อนรถจะเคลื่อนตัวออกจาก จังหวัดลำปาง เราขับรถวน เข้าไป ที่วัดพระแก้วดอนเต้า ซึ่งตามประวัติกล่าวไว้ ว่าพระแก้วมรกตที่ประดิษฐาน ณ วัดพระแก้ว ในพระบรมมหาราชวังกรุงเทพมหานคร เคยประดิษฐานอยู่ที่นี่มาก่อนนานมากแล้ว และวัดนี้ยังมีพระเจดีย์องค์ใหญ่ บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งวัดได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปกร สำหรับเช้านี้ เราได้แต่อธิษฐานจิตยกมือพนมไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านนอก เนื่องจากเป็นเวลาเช้า วัดยังไม่เปิดให้เข้าชม และพระบรมธาตุก็อยู่ในระหว่างซ่อมแซมปรับปรุง ไว้ถ้ามีโอกาสคงได้มาใหม่สักครั้ง ท้ายนี้ขอขอบคุณ คุณนพดา พัฒนาภรณ์ ที่สนับสนุน การเดินทาง เดินธรรม พบกับเราใหม่ในจังหวัดต่อไป ด้วยใจดีๆ กันค่ะ สวัสดี.