“แบมบีนี่ วิลล่า” คอมมูนิตี้มอลล์สำหรับครอบครัวแห่งใหม่ใจกลางเมือง จิ๊กซอว์ครอบครัวคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ City Family Lifestyle

“แบมบีนี่ วิลล่า” คอมมูนิตี้มอลล์สำหรับครอบครัวแห่งใหม่ใจกลางเมือง จิ๊กซอว์ครอบครัวคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ City Family Lifestyle

 

 

 

 

“แบมบีนี่ วิลล่า” คอมมูนิตี้มอลล์สำหรับครอบครัวแห่งใหม่ใจกลางเมือง
จิ๊กซอว์ครอบครัวคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ City Family Lifestyle

 

 

ครั้งแรกกับคอมมูนิตี้มอลล์คอนเซ็ปต์ใหม่สำหรับครอบครัว “แบมบีนี่ วิลล่า” (Bambini Villa) ใจกลางเมือง ที่เน้นออกแบบให้เด็กเป็นศูนย์กลาง เป็นจิ๊กซอว์สำคัญในย่านสุขุมวิท-พระราม4 ที่มาเติมเต็มกลุ่มครอบครัว ครบทุกมิติ ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง เพื่อตอบโจทย์ City Family Lifestyle ทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการกลางปี 2562


ณพวงศ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วงศ์กุลศรา เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า “ล่าสุดเราได้พัฒนาโครงการ แบมบีนี่ วิลล่า (Bambini Villa) ซึ่งเป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ล่าสุดในพื้นที่สุขุมวิท 26 และถือเป็นมอลล์แห่งแรกที่ชูจุดเด่นในเรื่องการให้ความสำคัญกับเด็กและครอบครัว ถือเป็น “The First Community Mall for Families in the Heart of Bangkok” จิ๊กซอว์ใหม่สำหรับครอบครัว เพื่อตอบโจทย์ City Family Lifestyle ของคนยุคใหม่ ครบครันด้วยร้านค้าคอนเซ็ปต์ใหม่ ร้านอาหาร ร้านบริการเสริมสวยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โรงเรียนดนตรี โรงเรียนเสริมทักษะและการพัฒนาเด็ก และมุมกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ อาทิ สนามเด็กเล่น แปลงผัก เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวและเด็กอย่างแท้จริง ตั้งแต่การออกแบบอาคาร การคัดสรรร้านค้า และการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางโดยคำนึงถึงสมาชิกทุกคนในครอบครัว เป็นพื้นที่ที่สมาชิกในครอบครัวสามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้ ถือเป็นพื้นที่ส่วนขยายของบ้าน หรือ Second Home มาช่วยเติมเต็มทุกความต้องการแบบนี้ ซึ่งคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไปยังไม่เคยมีมาก่อน”


จุดเริ่มต้นของโครงการ แบมบีนี่ วิลล่า (Bambini Villa) มาจากความเป็นคุณแม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลูกๆ ที่อยู่ในวัยเรียน ซึ่งมองหาพื้นที่กิจกรรมและเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็ก และทำอย่างไรให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้มีกิจกรรมเป็นของตัวเองแต่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน หรือสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้โดยที่ไม่ต้องออกไปไกลถึงต่างจังหวัดหรือรอวันหยุดเทศกาล ดังนั้นจึงคิดสร้าง Eco System ที่มีองค์ประกอบต่างๆ ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆ เอื้อพัฒนาการของเด็กและเอื้อการใช้ชีวิตของพ่อแม่ไปพร้อมกัน ผ่านแนวคิด Designed With Love ออกแบบมาโดยเฉพาะด้วยความรักและสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเข้าใจใส่ใจทุกรายละเอียด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “กล่องขาวแห่งความฝัน” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “สีขาว” ที่เปรียบเสมือนจินตนาการ อันบริสุทธิ์ และกว้างไกล ไร้ขีดจำกัดของเด็กๆ อิฐสีขาวจึงก่อเรียงกันสลับไปมาเหมือนจิ๊กซอว์แห่งความฝันที่เด็กๆ ได้มาสร้างร่วมกันในที่แห่งนี้


ส่วนตัวโครงสร้างอาคารได้รับการออกแบบเป็นตัว O เป็นโถงสูง ดูปลอดโปร่งและปลอดภัย สูง 2 ชั้น เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถมองเห็นลูกหลานที่เล่น playground อย่างชัดเจน มีแสงธรรมชาติที่ดีต่อเด็ก สามารถทำกิจกรรมได้ทั้งครอบครัว ภายในโครงการยังออกแบบทางเชื่อมระหว่างร้านให้เป็นเหมือน สะพานไม้ แขวนที่ลอยเด่นอยู่บน Playground เพื่อให้เด็กๆ ได้รู้สึกตื่นเต้นสนุกสนาน เวลาเดินผ่านอีกด้วย เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บนพื้นที่โครงการรวม 2.5 ไร่ โดยมีพื้นที่ส่วนกลาง 2,300 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าทั้งหมด 2,700 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถรองรับผู้มาใช้บริการกว่า 125 คัน และระบบรักษาความปลอดภัย ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ใช้งบประมาณการก่อสร้างและตกแต่งประมาณ 150 ล้านบาท มีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 650 ล้านบาท ภายในครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เน้นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กมาใช้เวลาเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการได้จริง โดยแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซน มีร้านค้าชั้นนำมากกว่า 30 ร้านค้า ประกอบด้วย
EATERY ZONE ร้านอาหารและคาเฟ่
RETAIL ZONE ร้านค้าแบรนด์ชั้นนำสำหรับครอบครัว
HEALTH & BEAUTY ZONE ร้านสุขภาพและความงาม
EDUTAINMENT ZONE พื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ ที่เพิ่มเติมเป็นพิเศษเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก มีด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่


1) Indoor Playground สนามเด็กเล่น, บ่อทราย, mini climbing wall เน้นเป็นพื้นที่เล่นสนุกอย่างปลอดภัย และให้เด็กได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ผ่านการทำกิจกรรมหลากหลาย ที่เสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย


2) Outdoor Green Area สวนแปลงผักสำหรับการเรียนรู้ให้เด็กรับผิดชอบดูแลผักของตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนต้นจนถึงเก็บผลผลิต ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติและใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการเรียนรู้ในกระบวนการเพาะปลูกในทุกขั้นตอน ทำให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ ตระหนักและรู้จักการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


3) Co-Learning Space พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบที่ไม่จำกัดเฉพาะเด็กเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมสำหรับผู้ปกครองได้พัฒนาทักษะการเลี้ยงดูเด็ก และยังเป็นพื้นที่ทำการบ้าน หรือเป็นสถานที่สอนพิเศษ (Study Room) ในสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมจินตนาการกว้างไกล และสร้าง Social Interaction ให้กับเด็กด้วย และยังมีกิจกรรมสำหรับคุณแม่ในช่วงระหว่างสัปดาห์ อาทิ เวิร์คชอปสอนทำอาหารสำหรับเด็ก กิจกรรมเพื่อคุณแม่ที่ต้องการมีเวลาดูแลตัวเองบ้าง ส่วนช่วงสุดสัปดาห์ จะเป็นกิจกรรมสำหรับทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้เรื่องความสะอาดและความปลอดภัย เราให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ โดยจะมีจุดบริการแอลกอฮอล์เช็ดมือและทำความสะอาดร่างกาย เพื่อสุขอนามัยของส่วนรวม มีการทำความสะอาดแบบ Big cleaning 1 ครั้ง/สัปดาห์ ส่วนความปลอดภัย จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลที่ได้รับการฝึกอบรมความรู้ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยสำหรับเด็กมาเป็นพิเศษ และสามารถเข้าถึงได้ง่าย


“แม้ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์จะค่อนข้างสูง แต่ด้วยทำเลที่สะดวกเข้าถึงง่าย ทำให้ย่านนี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก รวมถึงจุดแข็งทางธุรกิจจากประสบการณ์จริงในฐานะคุณแม่ลูก 2 จึงเข้าใจความต้องการผู้ปกครองที่พยายามสรรสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อลูก อีกทั้งยังทำ Insight Survey พบว่าพ่อแม่ยุคนี้ต้องการพื้นที่ที่ตอบโจทย์ในส่วนนี้เช่นกัน ประกอบกับโครงการฯ ถูกพัฒนาบนที่ดินที่มีศักยภาพของครอบครัวอรรถกระวีสุนทร


ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่ดินในย่านพระราม 4 – สุขุมวิท 26 – พระราม 9 อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เอ สแควร์, แวร์เฮ้าส์ 26, โครงการอาจณรงค์, สวนเพลินมาร์เก็ต, อาคารสำนักงานมโนรม, อาคารสำนักงานสิรินรัตน์ และคอนโดอยู่อาศัยพร้อมสุขและรวมสุข สุขุมวิท 26 ดังนั้นโครงการ แบมบีนี่ วิลล่า จึงเป็นเหมือนจิกซอว์ที่มาเติมเต็มกลุ่มเป้าหมายที่เรายังขาดอยู่ให้ตลาดในย่านนี้คึกคักขึ้น” ณพวงศ์ กล่าวเสริม


สำหรับร้านค้าไฮไลท์ ที่ตอบโจทย์ครอบครัว อาทิ ร้าน Holey Bakery เบเกอรี่ชื่อดังที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพและอุปกรณ์นำเข้าจากแบรนด์ระดับโลก ภายในร้านเด็กๆ ยังสามารถเข้ามาดูกระบวนการทำขนมปังของทางร้านได้อีกด้วย ร้าน Baby Bib Café ร้านคาเฟ่เมนูทั้งคาวและหวานที่คุณพ่อคุณแม่จะสังสรรค์กับเพื่อนโดยไม่ต้องกังวลว่าเด็กๆ จะเบื่อ ซึ่งมีพื้นที่สำหรับทั้งเด็กเล็กและเด็กโตไว้เล่นใกล้ๆ ผู้ปกครอง จูเลีย เกเบรียล เซ็นเตอร์ (Julia Gabriel Centre) โรงเรียนชั้นนำด้านการสอนการพัฒนาเด็กเล็กผ่านการพูดและการแสดง ก่อตั้งที่สิงคโปร์เมื่อปี 1983 และมีสาขา 12 แห่งในเอเชีย Julia Gabriel มีโปรแกรมการสอนที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่า EduDrama® ที่สอนให้เด็กมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ การสื่อสารและการแสดงความเห็น และอารค์กิ (Arkki) โรงเรียนฝึกความคิดสร้างสรรค์และความเป็นผู้ประกอบการสำหรับเด็กและเยาวชน อารค์กิเป็นโรงเรียนชั้นนำระดับโลกที่ใช้การจัดการศึกษาอย่างสร้างสรรค์(Creative Education) สำหรับเยาวชน อายุ 4-19 ปี และยังมีร้านค้าอีกมากมายที่น่าสนใจ


โดยได้วาง Brand Positioning สำหรับครอบครัวไว้อย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของรูปแบบและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งบริการต่างๆ เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นครอบครัวระดับ B+ ขึ้นไป ที่อยู่อาศัยในย่านสุขุมวิท – ทองหล่อ - พระราม 4 แบ่งเป็นคนไทย 70% และต่างชาติ 30% โดยหวังสร้าง “แฟมิลี่ คอมมูนิตี้” เข้ามาเติมเต็มความต้องการให้กับคนไทยและต่างชาติในย่านสุขุมวิทให้เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัว ตอบสนองการดำเนินชีวิตให้ครอบครัวมากกว่าคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วๆ ไป และด้วยความชำนาญของทีมผู้บริหาร ที่ปรึกษาและทีมทำงานของแบมบินี่ วิลล่า อาทิ CBRE มาช่วยในการนำเสนอพื้นที่โครงการร่วมกับทีม Leasing ของโครงการ, Be Our Friends ออกแบบ Visual identity และ Brand System, บริษัท รีเทล แพสชั่น จำกัด ซึ่งชำนาญงานด้านการสื่อสารและการตลาดให้กับศูนย์การค้าชั้นนำมากมายมาร่วมวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการบริหารประสบการณ์ของลูกค้า, Charcoal Design บริษัทสถาปนิกซึ่งเชี่ยวชาญการออกแบบ Community Mall และเคยร่วมงานกันมา และ Christiani and Nielsen Thailand บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นแนวหน้า จึงมั่นใจได้ว่า โครงการแบมบินี่ วิลล่า เป็นคอมมูนิตี้มอลล์สำหรับครอบครัวที่เปี่ยมด้วยศักยภาพและน่าสนใจในปีนี้ โดยใช้งบการตลาดในปีนี้ ประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณในการจัดงาน การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการโปรโมททั้ง Online และ Offline ตลอดจนการจัดกิจกรรมให้กับเด็กและผู้ปกครองภายในโครงการฯ โดยคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการเดือนละ 20,000 – 30,000 คน (วันละ 700-1,000 คน) และพื้นที่เช่าเต็ม 100% ตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะมีอัตราการเติบโตของผู้เข้าใช้บริการเดือนละ 25,000 – 35,000 คน


แบมบินี่ วิลล่า กำหนดเปิดโครงการในเดือนพฤษภาคม 2562 และ Grand Opening เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในเดือนมิถุนายน 2562 สำหรับผู้ที่สนใจร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งกับโครงการฯ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 090-969-9559 หรือทางเว็บไซด์ Bambinivilla.com หรือ Facebook Bambini Villa