ครั้งแรกในไทย! “แสนสิริ” ผนึก “โตคิว คอร์เปอเรชั่น” ดึง “สมิติเวช” ร่วมเสริมแกร่ง ประกาศพันธมิตร เปิดตัว “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” ต่อยอดศักยภาพ 3 ผู้นำธุรกิจ

ครั้งแรกในไทย! “แสนสิริ” ผนึก “โตคิว คอร์เปอเรชั่น” ดึง “สมิติเวช” ร่วมเสริมแกร่ง
ประกาศพันธมิตร เปิดตัว “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” ต่อยอดศักยภาพ 3 ผู้นำธุรกิจ

คอนโดฯเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพคอนเซ็ปท์ใหม่ ตอบโจทย์เทรนด์การดูแลสุขภาพที่เติบโตขึ้นทั่วโลก ปั้นไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยและคอมมูนิตี้เพื่อส่งเสริมสุขภาพดีแบบยืนยาวทั้งภายนอกและภายในครบทุกมิติ ที่เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้

(กรุงเทพฯ,25 ตุลาคม 2561) “แสนสิริ” “โตคิว คอร์เปอเรชั่น” ร่วมด้วย “โรงพยาบาลสมิติเวช” ยักษ์ใหญ่ผู้นำ 3 ธุรกิจ ด้านอสังหาฯในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น และโรงพยาบาลระดับนานาชาติชั้นนำในไทยผนึกกำลังประกาศพันธมิตร เดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” (Wellness Residence) ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ครั้งแรกในไทยพัฒนาขึ้นจากการศึกษาอย่างครอบคลุม เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพคอนเซ็ปท์ใหม่ พร้อมรับรองมาตรฐานระดับโลก WELL Certification เปิดมิติใหม่แห่งการใช้ชีวิตด้วยแนวคิดการส่งเสริมสุขภาพดีในทุกๆด้านจากความต้องการของคนทุกวัย มูลค่าโครงการกว่า 2,400 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑา ครบครันด้วยการสร้างคอมมูนิตี้และกิจกรรมไลฟ์สไตล์แห่งการอยู่อาศัยจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจที่เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ มุ่งพลิกโฉมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีในไทยสอดรับเทรนด์เวลล์เนสโลกและในไทยที่เติบโตขึ้น

นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน คนเราใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่าเมื่อเทียบกับเวลาในชีวิต และพร้อมจะจ่ายในสิ่งที่ต้องการเพื่อการดูแลสุขภาพ จากบ้านที่เราอาศัยสู่การใช้ชีวิตที่หลากหลายรวมถึงการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้น การได้อยู่ในบ้านที่ถูกสร้างเพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดี จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกวัย จากรายงานการศึกษาเรื่องที่อยู่อาศัยเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Build Well to Live Well 2018) ที่สถาบันสุขภาพโลก (Global Wellness Institute) จัดทำขึ้นในปีนี้ พบว่านับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา การพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มเวลล์เนสเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทั่วโลกมีมูลค่าตลาดประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท หรือ 134,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโต 6.4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างของโลกที่เติบโตที่ 1.5% และสามารถทำกำไรเฉลี่ยประมาณ 10-25% โดยปัจจุบัน มีโครงการและชุมชนที่เน้นการสร้างไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพดีประมาณ 740 แห่งทั่วโลก”

“แสนสิริ จึงได้พัฒนาโครงการในเซ็กเม้นท์ใหม่ “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” จากแนวคิดที่ต้องการนำเสนอที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่เป็นครั้งแรกของไทยที่สร้างขึ้นจากการศึกษาอย่างครอบคลุม ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบที่อยู่อาศัยครบวงจรที่คำนึงถึงการดีไซน์สวยงามที่ตอบโจทย์การใช้งาน (Style Living) เราได้นำแนวคิดการออกแบบที่เข้าใจความต้องการของมนุษย์มาใช้ในการพัฒนาทุกโครงการ ในครั้งนี้ เราจึงได้ร่วมมือกับโตคิว คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นนักพัฒนาจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมากในด้านการพัฒนาโครงการเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีในทุกช่วงวัย รวมถึงร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญในด้านการยกระดับการดูแลสุขภาพ เพื่อสร้างสรรค์โครงการคอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสุขภาพที่จะยกระดับมาตรฐานโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อไลฟ์สไตล์ที่เน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปอีกขั้น โครงการนี้จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยและคอมมูนิตี้แห่งแรกในประเทศไทยที่พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัยเป็นหัวใจสำคัญ ภายใต้แนวคิด 5 ด้านที่เป็นองค์ประกอบของการส่งเสริมการมีสุขภาพดี ได้แก่ด้านร่างภาย (Body) จิตใจ (Mind) จิตวิญญาณ (Soul) สิ่งแวดล้อม (Environment) และการใช้ชีวิตในสังคมที่รักสุขภาพ (Like minded community) โดยสะท้อนผ่านทั้งในการกำหนดคอนเซ็ปต์ การออกแบบการคัดสรรวัสดุที่ดีต่อสุขภาพ การตกแต่งและใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่เหมาะกับสรีระผู้ใช้งาน ตลอดจนผสานจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละรายเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร เพื่อสร้างสรรค์โครงการที่มีดีไซน์ โดดเด่นเพื่อการมีสุขภาพที่ดีในทุกมิติ”

แสนสิริ, โตคิว กรุ๊ป และ สห โตคิว คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือกันโดยมีสัดส่วนการลงทุน 70:29:1 ตามลำดับ โดยโรงพยาบาลสมิติเวชจะร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์มอบบริการด้านสุขภาพเพื่อสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็น “Well-Cared” ซึ่งสรรหาโครงการที่อยู่อาศัยที่จะทำให้ตนเองสามารถรักษาสุขภาพดีที่ยืนยาว รวมทั้งมีเพื่อน มีสังคมที่มีความต้องการอย่างเดียวกัน

มร. ชินจิ สึยามะ ผู้จัดการทั่วไป และตัวแทนในประเทศไทย บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวว่า “เป้าหมายของเรา คือ การสร้างสรรค์ “สิ่งแวดล้อมที่สวยงาม” มีความอบอุ่น เพื่อการใช้ชีวิตที่ดี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงชีวิตของผู้คน (Sustainable Living) ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมาก คือ การสร้าง Business model หรือการผสานองค์ความรู้ที่เราเรียกว่า “One Tokyu” เข้ากับความรู้และประสบการณ์กับธุรกิจในเครือ บริษัทได้นำความเชี่ยวชาญการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงการสร้างสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ใช้สอยและรองรับการใช้ชีวิตได้จริง ซึ่งถือเป็นทักษะสำคัญจากทีมสถาปนิกของโตคิว กรุ๊ป ทั้งยังได้นำการออกแบบที่สอดคล้องกับสภาพร่างกายมาใช้ในการออกแบบพื้นที่ที่อยู่อาศัย ตลอดจนข้อมูลจากการศึกษาตลาดและประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงสุขภาพมาให้ได้สัมผัส ซึ่งจะยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่และเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่อาศัยในโครงการอย่างเต็มที่”

ด้าน พ.ญ. สุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า “ข้อมูลจากทีดีอาร์ไอ เปิดเผยผลประมาณการค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของไทยในอีก 15 ปีข้างหน้าตามหลัก OECD จะมีค่าประมาณ 4.8 – 6.3 แสนล้านบาท นอกจากนี้ การวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยทางพันธุกรรมของคนมีผลประมาณ 20% ต่อสุขภาพของเรา ส่วนที่เหลืออีก 80% นั้น เป็นผลจากการใช้ชีวิตและปัจจัยภายนอก เช่น บ้าน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งล้วนแต่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพ พฤติกรรม วิถีชีวิต และอารมณ์ ดังนั้น ในฐานะผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำ เรามุ่งเน้นหลักการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ด้วยการสร้างคุณค่าต่อผู้รับบริการ สังคมและประเทศผ่านคอนเซ็ปท์ “เราไม่อยากให้ใครป่วย” โดยใช้นวัตกรรมให้ผู้รับบริการ รู้เท่าทัน-สกัดกั้น-วางแผน เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีแบบองค์รวม (Holistic living)เนื่องมาจากปัญหาของผู้ป่วยทั้งกายและใจ นอกจากนี้ การใช้นวัตกรรมดูแลสุขภาพ Precision Medicine เทคโนโลยีตรวจวิเคราะห์ระดับยีนเฉพาะบุคคล สามารถเจาะลึกได้ทุกโรค เพื่อบ่งบอกความเสี่ยงการเกิดโรคได้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่ในครรภ์ ยังสามารถช่วยสกัดกั้นโรคต่างๆ ตั้งแต่ก่อนคลอด หรือแรกเกิด ทำให้ทุกชีวิตเกิดมา

อย่างมีคุณภาพและปลอดโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่เริ่มแรก สมิติเวชมีความตั้งใจเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้คนไม่เจ็บป่วย อันจะช่วยลดการเจ็บป่วยจากโรคที่เกิด ลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษา Healthcare cost โดยรวมลดลง รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นทุกปีจากการที่ผู้ป่วยมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อ GDP (Gross Domestic Product) ของประเทศในการพยุงเศรษฐกิจชาติเมื่อประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น และนี่คือการสร้าง “องค์กรแห่งคุณค่า” (Organization of Value)”

“นอกจากนี้จากการที่ปัจจุบันผู้บริโภคควรเริ่มตระหนักถึงโครงการที่อยู่อาศัยที่เข้าใจและให้ความสำคัญต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเราเป็นหลัก เพื่อช่วยให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เราจึงเห็นว่ามีโอกาสอีกมากในตลาดที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสูงและให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี และความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การร่วมเป็นพันธมิตรกับแสนสิริและโตคิว คอร์เปอเรชั่น จะเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้ของเราอีกทางหนึ่ง นอกเหนือไปจากการขยายธุรกิจด้านบริการทางการแพทย์ที่เป็นธุรกิจหลักของเรา”

โครงการคอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสุขภาพแห่งใหม่นี้ เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 อาคาร รวมมูลค่า 2,400 ล้านบาท ที่นอกจากจะส่งเสริมการใช้ชีวิตที่ให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพแล้ว ยังจะเป็นการสร้างชุมชน “Wellness Community” ที่จะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพในองค์รวมได้อย่างครบวงจร โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ บนถนนกรุงเทพกรีฑา ทำเลทองสำหรับการอยู่อาศัยและมีสิ่งแวดล้อมที่สงบ และสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์โดยรอบได้อย่างง่ายดาย การออกแบบโครงการเป็นไปตามแนวคิดที่เน้นการเติมเต็มทุกมิติในการใช้ชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความต้องการทางกายภาพ จิตใจ จิตวิญญาณ สิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพรีเซลล์ได้ในปี 2562 นี้ โดยมีจุดเด่นใน 4 ด้าน ได้แก่

ด้านจิตใจ (Mind) จิตวิญญาณ (Soul) และการใช้ชีวิตในสังคมแห่งสุขภาพ (Like-minded community)

• โครงการคอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่สำหรับคนรักสุขภาพแห่งแรกของไทย ที่พรั่งพร้อมด้วยกิจกรรมและบริการจากไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำระดับโลกและในไทยไว้ในที่เดียว โดยร่วมกับพันธมิตรจัดกิจกรรมและบริการต่างๆ ที่ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันนี้ เพื่อพัฒนาการด้านสุขภาพร่างกาย (Body) สุขภาพความคิดและจิตใจ (Mind&Soul) สังคมของผู้ที่มีความชอบคล้ายกัน (Like-minded Community) และการวางแผนชีวิตทางการเงิน (Wealth)

ด้านสุขภาพร่างกาย (Body)
• โครงการที่อยู่อาศัยแห่งแรกของไทยที่ออกแบบด้วยยูนิเวอร์แซล ดีไซน์ (Universal Design) และให้ความสำคัญกับความสวยงาม (Aesthetic Universal Design) การจัดการพื้นที่ให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงความต้องการในอนาคตทั้งในที่พักอาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ (Space planning & Ergonomic Design) โดยผสานการออกแบบที่โดดเด่นผ่านความเชี่ยวชาญร่วมกับพันธมิตรอย่างโตคิว

• โครงการแรกของไทยที่มีโซลูชั่นเพื่อสุขภาพที่ครบวงจร บริการผ่านการใช้เทคโนโลยี Tele-health และ Plus+ Service โรงพยาบาลสมิติเวช จะนำนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพมาใช้เพื่อช่วยให้เราเห็น ป้องกัน และวางแผนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างครบวงจร ผู้อยู่อาศัยในโครงการจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ บริการเพื่อสุขภาพ และได้รับคำปรึกษา ตลอดจนบริการส่งเสริมสุขภาพทั้งทางกายภาพและจิตใจ ผ่านบริการโดยตรงและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ บริการด้านสุขภาพสำหรับผู้อยู่อาศัยจะเน้นการป้องกัน และการให้คำปรึกษา เช่น การตรวจสุขภาพก่อนย้ายเข้าโครงการ การให้ความรู้ส่งเสริมสุขภาพ และการตรวจหาปัญหาสุขภาพ ตลอดจนโปรแกรมอื่นๆ เช่น การตรวจสอบทางพันธุกรรมและการแพทย์ ที่เจาะลึกระดับยีน (Precision Medicine) รวมทั้งอุปกรณ์ตรวจสุขภาพเพื่อให้คำแนะนำด้านสุขภาพแก่ผู้อยู่อาศัยได้อย่างทันท่วงทีผ่านการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ (Tele-health) นอกจากนี้ แสนสิริยังจะนำบริการ Plus+ Service มาใช้ โดยเป็นแนวคิดด้านการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์แรกของไทยซึ่งมีโรงพยาบาลสมิติเวชเป็นผู้ให้ความรู้และฝึกอบรม เพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าในโครงการ รวมทั้งบริการฉุกเฉินตลอดเวลา

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment)
• มาตรฐานบทใหม่ของโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่สำหรับคนรักสุขภาพในประเทศไทยที่ยกระดับสู่การรับรองมาตรฐานระดับโลก WELL Certification จากสถาบัน WELL Building InstituteTM ในสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างโมเดลใหม่ในการพัฒนาโครงการ ที่ผสานจุดเด่นด้านการดูแลสุขภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมอย่างกลมกลืน โดยให้ความสำคัญกับ 11 ปัจจัยหลัก ได้แก่ อากาศ น้ำ โภชนาการ แสง การเคลื่อนไหว ความสบาย เสียง วัสดุ จิตใจ ชุมชน สังคม และ นวัตกรรม WELL (เวลล์) เป็นมาตรฐานรับรองแรกที่รับประกันประสิทธิภาพของระบบโดยวัดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่มีต่อสุขภาพ และเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับโลก

“เราหวังว่าโครงการเวลล์เนส เรสซิเดนซ์นี้ จะเป็นมิติใหม่ด้านกลยุทธ์ที่สามารถตอบโจทย์คนที่รักสุขภาพแบบครบองค์รวมได้อย่างดี รวมถึงความเชี่ยวชาญของพันธมิตรระดับชั้นนำที่มั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีได้ตั้งแต่วันนี้” นายปิติกลาวสรุป

“Sansiri” joins force with “Tokyu Corporation” and “Samitivej Hospital”
to announce the 1st strategic partnership to develop Wellness Residence in Thailand
Introducing new condominium concept that creates enriching lifestyle and community to promote
holistic health and encourage residents to starts wellness journey today!

Sansiri, Tokyu Corporation and Samitivej Hospital join force to announce their first strategic partnership for the development of “Wellness Residence”, Thailand’s first residential project with lifestyle partner line up created based on insightful study to capture health-conscious consumers aiming to be certified by WELL Certification to ensure world-class building standard enhance resident health and wellness in all perspectives ideal for people of all ages. The new condominium worth over Baht 2,400 million is located at Krungthep Kreetha area, encompassing a living community and lifestyle activities offered by leading partnering providers to encourage residents to start a journey to healthy body and mind today, in light of the growing wellness trend in Thailand and all over the world.

Mr. Piti Jarukamjorn Deputy Executive Vice President -Condominium Project Development and Strategic Project Management Sansiri Plc, revealed that “Today more and more people tend to spend a majority of their lifetime at home and are ready to pay for a healthier lifestyle, from the home they live to health-promoting activities and a better quality of life. Living in a home purposefully built to promote healthy and well living is desirable for people of all ages. According to Global Wellness Institute (GWI)’s Build Well to Live Well 2018 Research Report, the market value of wellness real estate is a $134 billion (or approximately Baht 4.4 million million) global industry in 2017 and has grown by 6.4% annually since 2015, far beyond the average growth of global construction industry of 1.5% .Wellness lifestyle real estate development are achieving home sales price premiums averaging 10-25%.Today, there are totally 740 wellness lifestyle real estate and community projects across the world.”

“Sansiri’s new residential segment “Wellness Residence” project is developed based on the new living concept first introduced in Thailand. The project leverages insightful consumer study and our expertise in aesthetic living space design to achieve ‘Style Living’ purpose by encompassing human-centric design thinking process in every project we develop. We join hands with Tokyu Corporation, a skillful developer from Japan with outstanding well-living
solutions, and Samitivej Hospital, a leading international hospital with elevated healthcare solutions, to develop a condominium project that sets the new bar of wellness lifestyle real

estate in Thailand and beyond. This is Thailand’s first residential project that puts people’s health at the center of the development of resident living and neighborhoods in the holistic
point of view, which comprises body, mind, soul, environment and like-minded community. All these are achieved through the well-thought-out conception, design, selection of non-hazardous materials and ergonomic movable furniture and other elements, while adapting each partner’s expertise and shared contribution to achieve impressive aesthetic design outcomes throughout the residence,” added Piti.

The project is jointly developed by Sansiri, Tokyu Corporation and Saha Tokyu Corporation Company Limited with shareholding proportion of 70:29:1 respectively, while Samitivej Hospital takes strategic partner role for all health-related services to serve the demands of target buyers who are ‘Well-Cared’ that focus on finding residential project which allow them to make their own choices and keep their own healthy long life, also being able to connect people with the same like-minded interest.

Mr. Shinji Suyama, General Manager and Representative in Bangkok of Tokyu Corporation Co.,Ltd (Japan) said that “Our goal is to create “Beautiful Living Environment” that involves the creation of warm and welcoming places where people can comfortably live over the course of their lives. One of our key success factors are the synergy of our ‘One Tokyu’ with holistically know-how and expertise contributed from our various related businesses. Tokyu Corporation has also expertise of residential development which pursue the high quality living environment, functionality and utility and those know-how is enhanced by Architecture specialists in Tokyu Group.In this project, we bring our expertise and ergonomic know-how in space design from our long-term study and experience in developing wellness residential projects to raise the living standard and benefit people who live in the project.”

Dr. Surangkana Techapaitoon, Deputy Chief Executive Officer, Samitivej and BNH Group of Hospitals said that “According to Thailand Development Research Institute (TDRI), the health expenses of the country during the next 15 years per the Organisation for Economic Cooperation and Development (OECD)’s measurements will rise to about Baht 480 billion to Baht 630 billion. Recent research shows that genetics may account for just 20% of our health outcomes, while the rest is determined by external and environmental factors.Our homes, communities, and surrounding environment directly affect our daily motivations, behaviors and lifestyle, and these factors determine 80% of our health outcomes. As a leading provider of healthcare in Thailand, Samitivej strongly advocate preventive care by leveraging our

innovation to enable our clients to acknowledge, protect, and planning for good quality of life in holistic way. advanced healthcare technology like Precision Medicine can help effectively tailor preventive measures and medical treatments by the use of individual genetic information to predict risk factors for developing disease in all stages of life, even in fetal life or early childhood. We don’t want anybody to get sick, which saves people from suffering and healthcare expenses, and helps reduce Thailand's total expenditure on health per capita which has increased every year. Health improvement of citizens can positively effects the country’s GDP and economic growth. This is a way forward to build an organization of value.”

“Therefore, consumers are beginning to recognize this connection and demand housing project that put human health and wellbeing as our top priority to supporting behavioral change and healthier lifestyles.We foresee a huge opportunity for high standard wellness lifestyle residence which will be widely embraced by increasing consumers in Thailand. At the same time, becoming a strategic partnership with Sansiri and Tokyu Corporation will also strengthen and expanding our source of income apart from our expansion in pure healthcare service,” added Dr.Surangkana.

Wellness Residence is a 4-building condominium worth Baht 2,400 million, is slated to create health-promoting lifestyles and wellness community, leading to a state of holistic health. The project is located on a 7-rai area in Krungthep Kreetha, the perfect location for living with a peace of mind atmosphere and at close proximity to a range of amenities. The project completes holistic living of residents in every aspect of life – body, mind, soul, environment and social, with 4 following unique propositions:

Mind, Soul and Like-minded community
• The first ever wellness lifestyle condominium to provide lifestyle activities by leading brands – the project will involve partners from various leading lifestyle brands, local and international, to encourage residents to start their wellness journey today with a range of activities to enhance body, mind & soul, like-minded community and wealth.
Body
• The first-ever residential building in Thailand to highlight Aesthetical Universal Design with the combination of space planning and ergonomic design, for the future
and ergonomic function both in unit and facilities area with proven expertise from Sansiri and Tokyu Corporation.

• Thailand’s first residence with most advanced seamless health solution via Tele-Health technology and Plus+ Service As a healthcare partner, Samitivej Hospital will provide innovations that enable residents in the project to acknowledge, protect, and planning for good quality of life in a holistic way. Residents will be encouraged to involve in health promotion initiatives, health support and consult environment, physical service and mental support through both direct and online channels. Health solution services for residents, with focus on preventive and predictive health consultancy, include health check-up program before move-in, health promotion and health detection and planning program such as gene testing, precision medicine method. The project will also offer tele-health solution to give residents access to prompt medical consultant through medical technology. In addition, Sansiri will introduce Plus + Services, the first holistic concept of property management services in Thailand to be trained by Samitivej Hospital to be readily available to furnish tenants with health-related knowledge and on stand-by for emergencies through facilitating space and activities.

Environment
• The new chapter of new-concept residential project in Thailand for health-concious people to be certified by “WELL Certification” by International WELL Building Institute™ which has become the new norm for the project that aim to provide a model for design and construction to integrate human health features in the built environment through its strict 11 criteria including air, water, nourishment, light, movement, thermal comfort, sound, material, mind, and community and innovation. WELL is the first certification to guarantee the performance-based system from the measurement of the impact from built environment on human health that currently guarantee the standard of many world-class properties around the world.

“We hope that Wellness Residence project will stand for our new strategic move to meet the demand of health-conscious individuals who aspire for holistic wellness and deliver a new living experience that inspires residents to adopt a healthy lifestyle today,” concluded Piti.