เดวิด เบ็คแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกร่วมฉลอง​ 80 ปีเอไอเอ หนุนคนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิตเพื่อมีสุขภาพแข็งแรง

เดวิด เบ็คแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกร่วมฉลอง​ 80 ปีเอไอเอ หนุนคนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิตเพื่อมีสุขภาพแข็งแรง

 

 

 

 

เดวิด เบ็คแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกร่วมฉลอง 80 ปีเอไอเอ หนุนคนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ชีวิตเพื่อมีสุขภาพแข็งแรง

 

 

เอไอเอฉลองครบรอบ 80 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดของไทย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้ลูกค้า และคนไทยทั่วประเทศมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘เอไอเอเพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ (Healthier, Longer, Better Lives) ผ่านกิจกรรมต่างๆ รวมถึงแคมเปญ “What’s Your Why?” ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพดี โดยมี เดวิด เบ็คแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของเอไอเอ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การดูแลสุขภาพในโอกาสที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมฉลองความสำเร็จของเอไอเอ ประเทศไทย


มร.ตัน ฮาค เลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เอไอเอ ประเทศไทยได้ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตเพื่อมอบความคุ้มครองให้กับลูกค้าตั้งแต่ พ.ศ. 2481 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ของคนไทย ปัจจุบันเอไอเอเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของประเทศและมีบทบาทสำคัญ


ในการพัฒนาธุรกิจประกันชีวิตของไทย ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ มากมาย ได้แก่ การนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่หลากหลายต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกช่วงอายุ เอไอเอมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและการบริการใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินและสร้างความอุ่นใจทางการเงินให้กับลูกค้า และอีกปัจจัยสำคัญ คือ การยึดมั่นในคำมั่นสัญญา (Brand Promise) เอไอเอมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าทั่วภูมิภาคให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘เอไอเอเพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ (Healthier, Longer, Better Lives) พร้อมตอบโจทย์ความต้องการในด้านความมั่นคงทางการเงินและการออมเงินในระยะยาวให้กับลูกค้า


ปัจจุบัน เอไอเอ ประเทศไทย มีลูกค้าทั่วประเทศกว่า 5.5 ล้านคน และลูกค้าประกันกลุ่มอีกกว่า 1.1 ล้านคน ซึ่งเอไอเอมุ่งเน้นในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้าตลอดจนชุมชนในสังคม เพื่อกระตุ้นให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี”


มร.สจ๊วต เอ สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “เอไอเอ ได้เปิดตัวคำมั่นสัญญา (Brand promise) ใหม่ของเอไอเอ คือ ‘เอไอเอเพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ (Healthier, Longer, Better Lives) ใน 18 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่เอไอเอดำเนินธุรกิจ เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาสุขภาพของผู้คนและโรคภัยต่างๆ ที่เป็นผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลต่อสุขภาพ


โดยคำมั่นสัญญาใหม่นี้ไม่เพียงสอดรับความมุ่งมั่นของบริษัทเพื่อให้ความคุ้มครองชีวิตของลูกค้าแต่ยังสนับสนุนให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน ทั้งนี้ เอไอเอได้เปิดตัวแคมเปญ ‘What’s Your Why?’ นำโดย เดวิด เบ็คแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของเอไอเอ ที่จะมาช่วยกระตุ้นให้ทุกคนค้นหาเหตุผลของตนเองว่า ทำไมถึงต้องการจะมีสุขภาพดี เพื่อเป็นแรงจูงใจและผลักดันให้ทุกคนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อนำไปสู่การมีชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ


ทั้งนี้ เอไอเอได้ค้นพบว่า เหตุผลสำคัญที่คนส่วนใหญ่ต้องการมีสุขภาพดีและเป็นสิ่งที่พ่อแม่ มีความกังวลใจ คือ ความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตกับลูกให้ยืนยาว เอไอเอจึงเดินหน้าสานต่อแคมเปญ ‘What’s Your Why? #2’ โดยครั้งนี้ เดวิด เบ็คแฮม จะมาแบ่งปันประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพของเขากับเด็กๆ ทั่วเอเชีย เราคาดหวังว่า แคมเปญนี้จะช่วยส่งเสริมให้ทุกคนเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีขึ้น และจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วเอเชียตระหนักว่า การปรับเปลี่ยนในสิ่งเล็กๆ สามารถจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้ นั่นคือ การมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น”


มร.เดวิด เบ็คแฮม เปิดเผยว่า ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของเอไอเอ ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้รับโอกาสนี้ ซึ่งมีประสบการณ์ได้เข้ามาพบปะผู้บริหารเอไอเอ และสัมผัสได้ว่าทุกคนไม่เว้นแต่พนักงานของเอไอเอต่างมี Passion ในการมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ขีวิตของทุกคน ซึ่งผมได้มีโอกาสเดินทางไปตามประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อการมีสุขภาพที่ดี เช่นเดียวกับการเดินทางมาประเทศไทยในครั้งนี้ ผมหวังว่าจะสามารถเป็นแบบอย่างในการดูแลสุขภาพ โดยการแบ่งปันประสบการณ์และเคล็ดลับของการมีสุขภาพที่แข็งแรง สำหรับแคมเปญ ‘What’s Your Why?’ ที่ผมมีส่วนร่วมจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจที่กระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงเป้าหมายระยะยาวของตนและความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ผมคิดว่า การมีสุขภาพที่ดีโดยรวมเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างความสมดุลของชีวิตอย่างยั่งยืน


ทั้งนี้ การออกกำลังกายทุกประเภทจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรง รวมทั้งการเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้เกิดประโยชน์ที่เห็นได้ชัดและส่งผลดีต่อคุณในระยะยาว นอกจากการออกกำลังแล้ว การรับประทานอาหารให้ได้ประโยชน์สูงสุดก็เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น พวกเราทุกคนล้วนมีหน้าที่การงาน และมีตารางชีวิตที่ยุ่งมาก และบางคนก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล ดังนั้นพวกเราควรมองหาวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยสนับสนุนให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น

@@ โครงการ Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality

โครงการ ‘Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality’ เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่เอไอเอ ประเทศไทย ได้ริเริ่มเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 80 ปีของการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอในการส่งเสริมสุขภาพของพนักงานในองค์กรทั่วประเทศ โดยเป็นโครงการสำรวจด้านสุขภาพขององค์กรบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมให้องค์กรตระหนักถึงสุขภาพและการใช้ชีวิตที่ดีของพนักงาน รวมถึงการวางกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนให้พนักงานมีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อส่งเสริมการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ซึ่งโครงการได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม 2561 โดยมีองค์กรที่สนใจเข้าร่วมรวมทั้งสิ้น 146 องค์กร รวมจำนวนพนักงานกว่า 7,500 คน ซึ่งองค์กรที่เข้าร่วมจะได้รับรายงานผลสุขภาพขององค์กร ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของพนักงานในองค์กรรวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่องค์กร

สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมสุขภาพของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน พนักงานที่ร่วมตอบแบบสำรวจทุกคนก็จะได้รับผลรายงานสุขภาพของตนเองเช่นกัน ซึ่งจะทำให้พนักงานมีความตระหนักในเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น

สำหรับรางวัลองค์กรสุขภาพเป็นเลิศของโครงการ ‘Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality’ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.องค์กรที่ส่งเสริมสุขภาพในสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด (Healthiest Workplace) 2.องค์กรที่พนักงานมีสุขภาพดีที่สุด (Healthiest Employee) และ 3.องค์กรที่มีสถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขภาพที่สุด (Healthiest Employer) โดยองค์กรที่ได้รับรางวัลในปีนี้ มีดังนี้

1.Healthiest Workplace

องค์กรขนาดเล็ก ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 16 ลุมพินี

องค์กรขนาดกลาง ได้แก่ บริษัท วี ฟิตเนส จำกัด

องค์กรขนาดใหญ่ ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา

2.Healthiest Employee

องค์กรขนาดเล็ก ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 16 ลุมพินี

องค์กรขนาดกลาง ได้แก่ บริษัท วี ฟิตเนส จำกัด

องค์กรขนาดใหญ่ ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา

3.Healthiest Employer

องค์กรขนาดเล็ก ได้แก่ บริษัท พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

องค์กรขนาดกลาง ได้แก่ แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

องค์กรขนาดใหญ่ ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)