SIRI ประกาศผลประกอบการปี 2560 กวาดรายได้ 31,757 ลบ.

SIRI ประกาศผลประกอบการปี 2560 กวาดรายได้ 31,757 ลบ.

 

  

 

 

 

SIRI ประกาศผลประกอบการปี 2560 กวาดรายได้ 31,757 ลบ.

 

 


บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI สรุปผลการดำเนินงานปี 2560 โชว์ผลประกอบการไตรมาสสุดท้าย รายได้สูงถึง 8,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ผลประกอบการรวมปี 2560 บริษัทมียอดขาย 38,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 31,757 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,825 ล้านบาท เผยแผนไตรมาสแรกปี 61 ลุยเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 12,700 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 โครงการบ้านเดี่ยว และ 1 โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส พร้อมจ่อโอนอีก 6 โครงการคอนโดมิเนียม มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จและส่งมอบให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไป

 

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในปี 2560 ที่ผ่านมานับว่าบริษัทประสบความสำเร็จมีผลประกอบการที่น่าพอใจโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ที่บริษัทสามารถสร้างรายได้รวมสูงถึง 8,628 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17.5% จากช่วงไตรมาสก่อนที่มีรายได้ 7,345 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 694 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการรวมปี 2560 บริษัทมียอดขายกว่า 38,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนที่มียอดขาย 31,100 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้รวมทั้งปีที่ 31,757 ล้านบาท จากการโอนส่งมอบคอนโดมิเนียมของแสนสิริ อาทิ โครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า ซึ่งมียอดโอนไปแล้ว 50% และโมริ เฮาส์ ซึ่งมียอดโอนไปแล้วถึง 95% รวมถึงบริษัทยังมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ส่งผลให้มีกำไรสุทธิไปถึง 2,825 ล้านบาท

“ผลจากการรุกธุรกิจภายใต้แผน Sansiri Transformation ซึ่งนับเป็นการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งสำคัญในปีที่ผ่านมาใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การบริหารการเงิน - การบริหารการพัฒนาโครงการ –การบริหารกลยุทธ์การตลาด และการบริหารด้านเทคโนโลยี ส่งผลให้แสนสิริก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยรวมถึงมีผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจ นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทยังได้เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส จากการส่งมอบโครงการ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท71 และโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต ให้แก่ลูกค้า รวมทั้งในปี 2561 บริษัทจะเริ่มทยอยโอนอีก 6 โครงการคอนโดมิเนียม มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านบาท ทั้งที่อยู่ภายใต้การพัฒนาของแสนสิริเองและภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส โดยจะเริ่มโอนตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้เป็นต้นไป ได้แก่ โครงการ ดีคอนโด พิงค์ เชียงใหม่, ดีคอนโด แคมปัส กำแพงแสน, เดอะ ไลน์ ราชเทวี, เดอะ ไลน์ อโศก รัชดา, เดอะ เบส การ์เดนท์ พระราม 9 และเดอะ ไลน์ วงศ์สว่างซึ่งเป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขายและเตรียมเปิดการขายเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกของปีนี้

สำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรก บริษัทมีแผนการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 12,700 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 โครงการบ้านเดี่ยว และ 1 โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ได้แก่ โครงการบุราสิริ บางนา ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมากจากการเปิดพรีเซลล์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเปิดขายในเฟสแรกจำนวน 88 ยูนิต ปิดการขายไปได้แล้วถึง 60 ยูนิต มูลค่ารวม 400 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมเปิดการขายอีก 2 โครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ บุราสิริ พัฒนาการ และ เศรษฐสิริ พหล – วัชรพล ในวันที่ 24 – 25 มีนาคมนี้อีกด้วย สำหรับคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทรวมทุนกับบีทีเอส ได้แก่ โครงการ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง บริษัทเตรียมเปิดการขายในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าไทยและกลุ่มลูกค้าต่างชาติ