แก้หนี้ง่ายๆ สบายๆ กับ "คลินิกแก้หนี้"

แก้หนี้ง่ายๆ สบายๆ กับ "คลินิกแก้หนี้"

 

  

 

 

 

แก้หนี้ง่ายๆ สบายๆ กับ
"คลินิกแก้หนี้"


ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท หรือ SAM เปิดตัวโครงการ "คลินิกแก้หนี้" เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนทั่วไปอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย ให้มีความสามารถในการชำระหนี้ได้มากขึ้น ไม่กลายเป็นหนี้เสียค้างชำระดังเช่นปัจจุบัน

เชื่อว่าโครงการนี้น่าจะได้รับความสนใจจากมนุษย์เงินเดือนที่มีหนี้สินไม่น้อย เราจึงนำข้อมูลและรายละเอียดของโครงการ "คลินิกแก้หนี้" มาแจกแจงให้ทราบกัน และจะได้ตรวจสอบด้วยว่าเรามีสิทธิ์เข้าโครงการนี้ด้วยหรือไม่

คลินิกแก้หนี้ คืออะไร เริ่มเมื่อไร

คลินิกแก้หนี้ หรือ "โครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน" เป็นนโยบายของภาครัฐที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนรายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารพาณิชย์หลายแห่งให้มีโอกาสปลดหนี้ โดยมีบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) หรือ SAM เป็นตัวกลางในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินกับธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายให้ได้ข้อยุติในคราวเดียว เหมือนกับ One Stop Service ที่ลูกหนี้แค่มาเจรจาที่คลินิกแก้หนี้ที่เดียวก็เหมือนกับได้ติดต่อกับเจ้าหนี้ทุกราย เรียกได้ว่า "หนี้บัตรทบ จบที่เดียว"

ทั้งนี้โครงการนำร่องจะเริ่มต้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 โดยจะช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหนี้กับธนาคารหลายแห่งก่อน เนื่องจากพบว่าบุคคลกลุ่มนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งลูกหนี้จะผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยลงจากเดิมที่เคยจ่ายประมาณ 20-25% จะเหลือเพียง 4-7% ตามช่วงรายได้

 

สินเชื่อประเภทไหนบ้างที่เข้าร่วมโครงการได้

ต้องเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่ลูกหนี้มีอยู่กับธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ สามารถนำยอดหนี้บัตรเครดิตเฉพาะบัตรที่เป็นหนี้เสียทุกใบมาเข้าร่วมโครงการได้ แต่ต้องมียอดหนี้เงินต้นคงค้างไม่เกิน 2 ล้านบาท

กรณีเป็นหนี้นอกระบบจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้


ธนาคารอะไรบ้างที่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

มีธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ 17 ธนาคาร ได้แก่

- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารทหารไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
- ธนาคารไอซีบีซี
- ธนาคารเกียรตินาคิน
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย
- ธนาคารทิสโก้
- ธนาคารยูโอบี
- ซิตี้แบงก์
- แบงค์ออฟไชน่า

คลินิกแก้หนี้ ใครมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการได้

ลูกหนี้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

- ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
- ต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี (ต้องไม่เกินตลอดอายุที่อยู่ในโครงการ)
- มีหนี้บัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ค้างชำระเกิน 3 เดือน (90 วัน) กับธนาคารตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไปก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2560
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกฟ้องดำเนินคดี
- ยอดหนี้เงินต้นค้างชำระรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท

* ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ บสส. โดยผู้สมัครจะต้องผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ รวมถึงการวิเคราะห์ รายได้ รายจ่าย แล้วมีเงินสดคงเหลือเพียงพอในการผ่อนชำระตามเงื่อนไข

เงื่อนไขของการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

- ลูกหนี้ต้องไม่ก่อหนี้ใหม่เพิ่มในระยะเวลา 5 ปี
- พร้อมเรียนรู้การสร้างวินัยทางการเงินที่ดี
- เสียดอกเบี้ยเฉลี่ย 4-7% ต่อปี (ตามช่วงรายได้) ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี

อัตราดอกเบี้ยการผ่อนชำระตามช่วงรายได้

- ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน ไม่เกิน 30,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 4%
- ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 30,000–50,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 5%
- ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 50,000–100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 6%
- ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือน 100,000 บาทขึ้นไป เสียดอกเบี้ยปีละ 7%

สมัครโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ที่ไหน

ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ 4 ช่องทางคือ

1. ทางเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ www.debtclinicbysam.com

2. ติดต่อที่สำนักงานโครงการ เลขที่ 333 อาคารเล้าเป้งง้วน 1 ชั้น 12 ซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

3. ติดต่อที่ สาขาของ บสส. 4 สาขา
– สาขาสุราษฎร์ธานี 213/17 หมู่ 1 ถนนเพชรเกษม ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
– สาขาขอนแก่น 381/46-47 หมู่ 17 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000
– สาขาพิษณุโลก 5/16-17 หมู่ 5 ถนนสิงหวัฒน์ ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000
– สาขาเชียงใหม่ 109/4 ถ.เชียงใหม่-ลำปาง (ท.ล.11) กม.98.7 เทศบาลตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300

4. ทาง Call Center 02-610-2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. (เว้นวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย)

ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

- ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.debtclinicbysam.com หรือ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ Call Center (โทร. ติดต่อ) 02-610-2266

- ขั้นตอนที่ 2 : กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร และยืนยันข้อมูลผ่านเว็บไซต์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 เป็นต้นไป

- ขั้นตอนที่ 3 : รอเจ้าหน้าที่โครงการติดต่อกลับ เพื่อนัดหมาย วัน เวลา เข้าพบที่สำนักงาน (โดยปกติจะติดต่อกลับไม่เกิน 1 วันทำการ แต่หากไม่ได้รับการติดต่อกลับ ให้โทร. มาสอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 02-610-2266)

- ขั้นตอนที่ 4 : จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับประกอบการพิจารณา

- ขั้นตอนที่ 5 : พบเจ้าหน้าที่โครงการที่สำนักงานโครงการ เพื่อพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้

- ขั้นตอนที่ 6 : เจ้าหน้าที่โครงการจะนัดหมาย เพื่อลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เมื่อได้รับการยืนยันจากธนาคารเจ้าหนี้ให้เข้าร่วมโครงการ

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการพิจารณา

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี)
4. เอกสารการตรวจสอบข้อมูลภาระหนี้จากเครดิตบูโร
5. สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
6. เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
7. บัตรเงินบำนาญ (กรณีเป็นข้าราชการ)
8. ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย (กรณีเป็นข้าราชการ)
9. หลักฐานการแสดงรายได้อื่น เช่น สัญญาให้เช่า สัญญาว่าจ้าง ฯลฯ
10. ใบแจ้งหนี้/เอกสารแสดงความเป็นหนี้
11. หนังสือยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิตบูโร

สามารถตรวจสอบตัวอย่างเอกสารได้ที่ debtclinicbysam.com

ตรวจสอบเครดิตบูโรได้อย่างไร

สามารถตรวจสอบเครดิตบูโรได้ที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) หรือที่ธนาคารพาณิชย์ และที่สำนักงาน บสส. ค่าธรรมเนียมครั้งละไม่เกิน 150 บาท อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ ทำความรู้จัก เครดิตบูโร คืออะไร เช็กได้ที่ไหน

ประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับจากโครงการคลินิกแก้หนี้

- ไม่ถูกทวงถามหนี้จากเจ้าหนี้หลายราย
- ลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือน เพราะชำระเฉพาะเงินต้นค้างชำระ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราผ่อนปรนไม่เกิน 7% ตามช่วงรายได้ ระยะเวลาผ่อนชำระได้ไม่เกิน 10 ปี
- เป็นการรวมหนี้ และผ่อนชำระในที่เดียว
- รู้จักวางแผนทางการเงินที่ดี

ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องชำระค่างวดให้ตรงตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และไม่สามารถก่อหนี้ใหม่ได้ภายใน 5 ปี ซึ่งหากผิดสัญญาจะมีผลให้สัญญาปรับโครงสร้างหนี้สิ้นสุดลง และต้องออกจากโครงการ หากใครสนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.debtclinicbysam.com หรือ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ Call Center (โทร. ติดต่อ) 02-610-2266

http://www.debtclinicbysam.com/