“อมตะ” ครบรอบ 40 ปี โชว์แผนปี59 ทุ่มงบลงทุน5พันล้านบาท

“อมตะ” ครบรอบ 40 ปี โชว์แผนปี59 ทุ่มงบลงทุน5พันล้านบาท

 

 

“อมตะ” ครบรอบ 40 ปี โชว์แผนปี59 ทุ่มงบลงทุน5พันล้านบาท


โชว์ศักยภาพนิคมฯมั่นคง ขยายโรงงานครบ2,000แห่งในอีก5ปี “อมตะ” จัดงานฉลองครบรอบ 40 ปี ตั้งเป้าปี59 ลงทุน5,000ล้านทั้งในและต่างประเทศ แจงแผนต่อยอดแนวคิดสร้างอมตะให้เป็นมากกว่านิคมอุตสาหกรรม เล็งขยายครบ 2,000 โรงงานในอีก 5 ปี โชว์ความแข็งแกร่งด้านการเงินกำไรสะสมกว่า 9,000 ล้านบาท พร้อมโคลนนิ่งโมเดลอมตะในไทยสู่เวียดนามและพม่าภายใต้การแนวคิด เมืองแห่งความสมบูรณ์แบบ

วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทอมตะ กล่าวในงานฉลองครบรอบ 40 ปี ว่า ในปี 2559 นี้ อมตะมีแผนใช้งบประมาณในการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ด้วยงบประมาณรวม 5,000ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2,000 ล้านสำหรับการลงทุนในประเทศเน้นในด้านระบบสาธารณูปโภค และอีก3,000ล้านจะเป็นการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม ทั้งเหนือและใต้

ทั้งนี้ สัดส่วนของรายได้ที่จะเข้ามานั้น แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากการขายพื้นที่ในนิคมฯ 65% ส่วนอีก 35%จะเป็นรายได้ที่มาจากการบริการ ซึ่งในอนาคตสัดส่วนดังกล่าวจะเปลี่ยนไป โดยจะเป็นรายได้จากการบริการที่เพิ่มขึ้น อยู่ที่ 80% และการขายพื้นที่จะอยู่ที่ 20% ทิศทางอนาคตของอมตะมีการวางแผนการลงทุนเพื่อการเติบโตแบบยั่งยืน โดยเน้นลงทุนจากกำไร และมีแผนการสร้างอมตะให้เป็นได้มากกว่าคำว่า นิคมอุตสาหกรรม เพื่อก้าวสู่การเป็น “เมืองแห่งความสมบูรณ์แบบ” หรือ “Perfect City” ที่ประกอบไปด้วย 3 สิ่ง ได้แก่ ความสะดวกสบาย คุณภาพชีวิตที่ดี และมีความรวดเร็วด้านการให้บริการแบบครบวงจร (One stop Service)ปัจจุบันอมตะ มีการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด และอมตะมีความพร้อมในทุกด้านสำหรับรองรับการลงทุนจากนักลงทุน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนสถานประกอบการภายในนิคมฯ อมตะได้ครบ 2,000 โรงงานภายในระยะเวลา 5 ปี

ล่าสุด ได้จัดงานฉลองครบรอบ อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า ผู้บริหารทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้อมตะประสบความสำเร็จได้เช่นทุก วันนี้ โดยจัดงานฉลองภายใต้คอนเซปต์ “ เดอะ ฟิวเจอร์ อิส เฮีย (The Future is Here)” ที่แสดงถึงศักยภาพการเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีความแข็งแกร่งและมั่นคงด้วยการ สร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและเป็นรากฐานความสำเร็จให้แก่นักลงทุนทุกคนที่ ก้าวเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมของอมตะ

นอกจากมุ่งเน้นเรื่องการสร้างรายได้จากการขายและให้เช่าพื้นที่ เพื่อจัดตั้งโรงงานแล้ว รายได้ที่มีความสำคัญทำให้อมตะมีความแข็งแกร่งอีกทางหนึ่งคือการสร้างรายได้ ระยะยาว ที่มาจากการพัฒนาธุรกิจด้านบริการและสาธารณูปโภคทุกประเภทที่มีความจำเป็น ต่อการประกอบกิจการอุตสาหกรรมและการใช้ชีวิต อาทิ น้ำประปา ไฟฟ้า ระบบโทรคมนาคม การขนส่ง การศึกษา สาธารณสุข ฯลฯ ซึ่งเป็นรายได้ที่มีการหมุนเวียนเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โรงงานทุกแห่งมีความจำเป็นต้องใช้บริการ อมตะจึงทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการครบวงจร เพื่อ ช่วยให้ผู้ประกอบการโรงงานได้รับความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการจัดหาทรัพยากร ในการประกอบกิจการอุตสาหกรรม และ การดำรงชีวิตของพนักงานโรงงาน อีกด้วย

“เคล็ดลับความสำเร็จที่ยั่งยืนของอมตะอย่างแรก คือ การมีวินัยทางการเงิน รู้จักบริหารจัดการกำไรและหนี้สิน ลงทุนจากกำไร และการนำเอาที่ดินที่มีอยู่มาคิดเป็นเงินลงทุนหากมีการร่วมทุนแทนที่จะลงทุน ด้วยเงินสด จะทำให้การบริหารจัดการเงินยั่งยืนกว่า นอกจากนี้สิ่งที่สอง คือ ต้องมองให้ไกล คือ มองล่วงหน้า ไม่ใช่แค่สิบปี ยี่สิบปี แต่หมายถึงมองข้ามไปมากกว่านั้น และสิ่งสุดท้ายคือ ต้องมองอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จะทำอะไรต้องมีแผนวางไว้ แล้วค่อยๆก้าวเดิน เราเป็นเรือเกลือที่ค่อยๆเดิน แต่มั่นคง แผนพัฒนาของอมตะวางไว้ล่วงหน้าสามสิบปี และเรายังคงค่อยๆพัฒนาตามแผนต่อไป อมตะ เราคือผู้กำหนดอนาคตด้วยการมองการณ์ไกล”

ขณะที่ วิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการพัฒนาธุรกิจแล้ว อมตะยังได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อป้อนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม โดยมีแผนพัฒนาการบริหารจัดการเพื่อรองรับด้านแรงงานฝีมือให้แก่โรงงาน อุตสาหกรรมภายในนิคมฯ อมตะ โดยความร่วมมือกับกรมอาชีวศึกษาจัดหลักสูตรการฝึกงานระยะยาว รวมถึงการพยายามผลักดันให้เกิดศูนย์วิจัยเพื่อวิเคราะห์ วิจัย เชื่อมโยงงานวิจัยเพื่อคิดค้นพัฒนาผลงานหรือผลผลิตของแต่ละบริษัท หรือแม้กระทั่งการสร้างเมืองวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมให้วิทยาศาสตร์ใกล้ชิดอุตสาหกรรม เพื่อการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน

อมตะเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ดำเนินตามแนวคิดเมืองที่สมบูรณ์แบบ เน้นความสำคัญการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสะอาด เพื่อประหยัดทรัพยากรและพลังงาน การลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเชื่อมั่นว่าศูนย์วิจัยด้านวิทยาศาสตร์จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ ให้ตอบสนองความต้องการของธุรกิจต่างๆในอนาคตได้
“เป้าหมายของอมตะไม่เพียงแค่การวางแผนเพื่อทำธุรกิจอุตสาหกรรม แต่อมตะพัฒนาธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นจนต่อยอดให้มีความมั่นคงแข็งแกร่ง การบริหารจัดการคนจึงเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ แรงงานเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากโรงงานจะเลือกลงทุนก่อตั้งก็จะเลือกพื้นที่ที่มี่ความพร้อมในทุกๆด้าน ทั้งสาธารณูปโภค การคมนาคมไปจนถึงสาธารณสุข เมื่อพื้นที่ตอบโจทย์ได้”

นอกจากนี้ สมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า การขยายธุรกิจอมตะไปยังต่างประเทศคือการขยายโอกาสด้านการทำธุรกิจและเพิ่ม พื้นที่ด้านการลงทุนให้แก่นักลงทุนโดยปัจจุบันอมตะมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ใน ประเทศเวียดนาม 2 แห่ง ได้แก่ อมตะ ซิตี้ เบียนหัว และ อมตะ ซิตี้ ลองถั่น และในระหว่างนี้ก็ได้มีการศึกษาเพื่อจัดหาพื้นที่สำหรับการพัฒนาเพิ่มเติม ทั้งในประเทศเวียดนามและประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม AEC อาทิ ประเทศพม่า ซึ่งเป็นอีกประเทศที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการคมนาคมเป็นสามเหลี่ยมแห่งการผลิตขนาด ใหญ่ได้


โดยเห็นได้จากประเทศเวียดนามติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศพม่าติดกับมหาสมุทรอินเดีย และประเทศไทยติดกับอ่าวไทย โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคม สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นการลงทุนที่สร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจให้ สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดการบริหาร หรือแม้แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อรองรับความหลากหลายของแรงงาน ที่ผ่านมา การพัฒนาธุรกิจในต่างประเทศของอมตะยึดรูปแบบการบริหารจัดการจากโมเดลหลักคือ นิคมอุตสาหกรรมอมตะในประเทศไทยที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วถึง 40 ปี ภายใต้แนวคิดการพัฒนาอมตะให้เป็น เมืองสมบูรณ์แบบ