“Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio-Economy” ในระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2561

“Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio-Economy” ในระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2561

 

 

 

 


“Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio-Economy” ในระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2561

 

 

(23 พ.ค. 2561 กระทรวงวิทย์) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมพลังพันธมิตรภาครัฐเอกชน ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ ตอบสนองความต้องการประเทศ สร้างผู้ประกอบการไทยด้วยนวัตกรรม ประกาศจัดงาน Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio-Economy พร้อมชี้เป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในการขยายทิศทางการดำเนินงานขององค์กร ให้สามารถตอบสนองความต้องการของประเทศ

 


ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. กำหนดจัดงาน “Transforming SMEs through Innovation : From Local to Global Player in Bio-Economy” ในระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2561 เวลา 8.30-16.00 น. ห้องบอลรูม A ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นประธานในการเปิดงาน โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อนำนโยบายของรัฐบาลมาขับเคลื่อน ผ่านการพัฒนาศักยภาพงานวิจัยและพัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้บริการแก่อุตสาหกรรม ตลอดจนด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของ วว. ไปสู่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs ที่เกี่ยวข้องกับด้านเกษตรและอาหารของไทย ให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจของชาติต่อไป นอกจากนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในการขยายทิศทางการดำเนินงานของ วว. ในปัจจุบัน ให้สามารถตอบสนองความต้องการของประเทศ ในการสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-Driven Enterprise หรือ IDE) อีกด้วย

 

“...ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ หรือ ระบบเศรษฐกิจกระแสใหม่ (New Economy) เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างขีดความสามารถทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้จุดแข็งของแต่ละประเทศในการยกระดับการพัฒนาประเทศ ให้พัฒนาจากการเป็นประเทศที่รับจ้างผลิตสินค้าให้พัฒนาไปสู่การเป็นประเทศที่มีความสามารถในการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นแก่สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง สำหรับประเทศไทยนั้น คณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจกระแสใหม่ ในคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้กำหนดให้เศรษฐกิจฐานชีวภาพ หรือ Bio Economy เป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจหลักของไทย เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องในทุกมิติเป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ วว. มีภารกิจในการสนับสนุนและสร้างสรรค์สังคมผู้ประกอบการของไทยในระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนให้มีการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ไปใช้ เพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเติบโตและยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตรรมด้านการเกษตรและอาหารให้แก่ผู้ประกอบการและชุมชนทั่วประเทศ เนื่องจากกระแสโลกาภิวัฒน์ทำให้การพัฒนา วทน. เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยการแข่งขันของผู้ประกอบการทุกระดับในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แต่เพียงภายในประเทศหรือระดับภูมิภาคอีกต่อไป แต่เป็นการแข่งขันกันในระดับโลก ดังนั้นเพื่อส่งเสริมและต่อยอดการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถผลิตสินค้าที่ต้องอาศัย วทน. ในการพัฒนาเพื่อสร้างความแตกต่าง (differentiation) เพิ่มมูลค่า และสามารถจำหน่ายในตลาดโลกได้โดยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลถึงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ประเทศไทยมีความเข้มแข็งเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เช่น สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป เป็นต้น ซึ่งการดำเนินงานของ วว. ในปัจจุบันนั้นมีกลไกการสนับสนุนที่ครบครันในการดำเนินการดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการจัดงานในครั้งนี้…” ผู้ว่าการ วว. กล่าว

 

นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการภูมิภาคอาเซียน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในพันธมิตรที่นำผลงานเข้าร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ กล่าวถึงแนวโน้มของนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ (Trend and Innovation of Functional Food) ว่า จากประสบการณ์ของบริษัทยูบีเอ็มฯ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานแสดงส่วนผสมอาหาร มองเห็นถึงความสำคัญของการใช้นวัตกรรมและในการเพิ่มมูลค่าและการพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพ โดยผู้ประกอบการสามารถศึกษาและพัฒนาสินค้าได้จากเทรนด์อาหารสุขภาพที่มาแรง ยกตัวอย่างเช่น การใช้นวัตกรรมในการผลิตสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่หลากหลาย เนื่องจากความใส่ใจของผู้บริโภคในด้านความสมดุลระหว่างรสชาติหวานหอมอร่อยและสุขภาพที่ดีได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งในอนาคตจะได้เห็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มาจากธรรมชาติ หรืออาจมีวัตถุดิบอื่นผสมเข้าไปด้วยเพื่อให้ได้ความหวานที่รักษาระดับน้ำตาลในร่างกายให้สม่ำเสมอ หรือในปัจจุบันผู้บริโภคจะหันมาเลือกสรรอาหารและเครื่องดื่มที่ให้คุณค่าทางโภชนาการและให้พลังงานอย่างเต็มที่แทนอาหารไขมันต่ำแบบเดิม ๆ แต่ยังคงใส่ใจอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเลือกสรรอาหารที่ออกแบบมาเพื่อช่วยดูแลสุขภาพของผู้บริโภคแต่ละคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับอาหารและเครื่องดื่มตามความต้องการของผู้บริโภค

 

ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ กล่าวถึงกิจกรรมภายในงาน Transforming SMEs through Innovationฯ ว่า ประกอบด้วยกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง ได้แก่ การบรรยายของวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ถึงแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อน SMEs ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารของไทยไปสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืนด้วย วทน. ตามนโยบายของรัฐบาล งานสัมมนาและกิจกรรมที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญของ วว. และพันธมิตรในด้านนวัตกรรมอาหารเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทของไทยในการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) นิทรรศการผลงานวิจัยพัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี บริการอุตสาหกรรม เพื่อแสดงศักยภาพในแต่ละสาขาความเชี่ยวชาญของ วว. และเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง อาทิ Chinese Academy of Sciences (CAS) และ Japan Packaging Institute (JPI) เป็นต้น รวมทั้งการให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) โดยมีการให้คำปรึกษาเพื่อแนะนำแนวทางและสนับสนุนการดำเนินงานแก่ผู้ประกอบการด้วย โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ประกอบการในระดับ SMEs ของไทยที่เกี่ยวข้องกับภาคเศรษฐกิจชีวภาพ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะการพัฒนา วทน. ไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ (Commercialization) นักวิจัยและนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้อง และประชาชนผู้สนใจการนำ วทน. ไปใช้ประโยชน์ได้จริง

 

สำหรับผลงานเด่นๆ ของ วว. ที่จะนำไปจัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ อาทิ ผลงานวิจัย LECENTELLA…ผลิตภัณฑ์นาโนเซรั่มจากสารสกัดใบบัวบก Gemetics…ผลิตภัณฑ์แคปซูลสารสกัดขิงบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่รับเคมีบำบัด Functional Ingredients Scale-up Plants เสริมแกร่ง SMEs นำเสนอ ระบบโครงสร้างพื้นฐานเสริมแกร่ง SMEs ได้แก่ Food Innovation Service Plant (โรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร) ICPIM ศูนย์นวัตกรรมผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรม Algae Excellent Center (ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย) Food Design & Packaging Smart Packaging ได้แก่ Intelligent Packaging, Active packaging, ECO Package Design, Compostable Packaging Test บริการทดสอบบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอันตราย ซึ่ง วว. ให้บริการทดสอบบรรจุภัณฑ์สินค้าอันตรายเป็นแห่งเดียวในประเทศเพื่อขอรับรอง UN mark NQI for Bio-Industry นำเสนองานบริการเพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ Food Safety Biocompatibility การรับรองมาตรฐานอาหารและเครื่องดื่ม การทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้วยผิวหนังจำลอง 3 มิติ ยกระดับโอทอปด้วย วทน. นำเสนอ Success Case ผู้ประกอบการที่ประสบผลสำเร็จในระดับประเทศและเตรียมก้าวสู่ระดับนานาชาติ

 

นอกจากนี้ยังมีการแสดงผลงานของเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ อาทิ กรมส่งเสริมการส่งออกระหว่างประเทศ Food Innopolis, UBM, หน่วยงานเทคโนธานี CAS, Tokyo SMEs Support Center, JST และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม