ยุ้ย-อัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร ชีวิตหลังสิ้น “บิ๊กจ๊อด”

ยุ้ย-อัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร ชีวิตหลังสิ้น “บิ๊กจ๊อด”

 

 

 

 

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง ภาพ : มาโนช ภาชีรัตน์

 

แต่งหน้า : บัณฑิต บุญมี  สถานที่ : โรงแรมดุสิตธานี กรุงเท

 

ยุ้ย-อัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร

ชีวิตหลังสิ้น “บิ๊กจ๊อด”

 

เช็คเด้ง 70 ล้าน!! แม้ปลง…แต่ขอสวยด้วยหน้าทอง

 

 

ชีวิตที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์ศฤงคาร อาจนำมาซึ่งฐานะทางสังคม แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเผชิญ กับมรสุมและคลื่นลม คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการ “ปลง” หลังจากห่างหายหน้าตาไปกว่า 10 ปี ภรรยาคนสุดท้ายของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หวนคืนสู่แสงแฟลชโพสท่าเป็นนางแบบเพ่ื่อให้ได้ชมกันอีกครั้ง พร้อมเปิดใจเรื่องราวชีวิตหลังสิ้น “บิ๊กจ๊อด” ทั้งกรณีถูกศาลตัดสินจำคุก 16 ปี คดีเช็คเด้ง 70 ล้าน!!

 

/////  

 

จากอดีตสาวสังคมที่หลายคนคุ้นหน้า ใครจะคาดคิดว่าการพบปะกันอย่างบังเอิญระหว่างเรากับ ยุ้ย-อัมพาพันธ์ ธเนศเดชสุนทร ภรรยาของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือบิ๊กจ๊อด อดีตผู้บัญชาการ ทหารสูงสุด และอดีตประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) จะเกิดขึ้น บนรถไฟฟ้า วันนั้นเธอแต่งกายด้วยชุดธรรมดา ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางใดๆ จะแปลกตาจากภาพครั้งอดีตไปบ้างก็เห็นจะเป็นทรงผมบ๊อบหน้าม้าที่อินเทรนด์เหลือเกิน และ  นั่นจึงเป็นที่มาของการนัดสัมภาษณ์ในครั้งนี้

 

// ฉีดไหมทองคำ...เพื่อความงามบนใบหน้า

 

คุณยุ้ยส่งรอยยิ้มหวาน พลางกล่าวขอบคุณทันทีหลังถูกทักว่ายังคงความสวยสมวัยไม่เปลี่ยน แปลง เคล็ดลับนอกจากการทำจิตใจให้สงบตามหลักธรรมที่เธอเพียรปฏิบัติเป็นกิจวัตรแล้ว สุภาพสตรีวัย 58 กะรัต ยังยอมเผยถึงเทคโนโลยีที่ทำให้ใบหน้าของเธอสวนทางกับวัยที่เพิ่มขึ้น นั่นคือการฉีดเส้นไหมทองคำ (Gold Thread) ที่เหล่าคนมีสตางค์นิยมกันอยู่ในเวลานี้ 

 

การฉีดไหมทองเป็นการสอดดิ้นไหมทองเข้าชั้นคอลลาเจนของผิว ให้ร่างกายผลิตอิลาสติน เพื่อให้ผิวยกกระชับหน้าดูเป็นธรรมชาติ โดยคุณยุ้ยบอกว่า “ทองคำที่ว่าเป็นทองคำเกี่ยวกับ สุขภาพ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ผ่านทาง อย.บ้านเรา แต่พี่ทำกับคุณหมอชาวโปแลนด์ ทำมาได้เกือบปี แล้วค่ะ ค่าฉีดไหมทองแค่เส้นเดียว บวกค่าหมอก็ตกเป็นแสนบาท เพราะค่าหมอที่ทำให้เราต้อง จ่ายห้าหมื่น ค่าทองก็แสนสอง พี่ทำแค่เส้นเดียว คุณหมอบอกว่าบริเวณที่ฉีดเข้าไปจะค่อยๆ ดีขึ้นๆ เดี๋ยวนี้ก็มีหลายหมอทั้งจากเยอรมนี และญี่ปุ่นที่รับทำ”

 

แม้สนนราคาค่าเสริมความงามจะมากถึงหลักแสน แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว หลายคนยอมแลก เพราะโบราณว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” เหตุผลของเธอจึงไม่ต่างจากคนทั่วไป   “สาเหตุที่ต้องฉีดไหมทองคำนี้ เพราะสมัยก่อนบริเวณแก้มขวาด้านล่างจะบุ๋มลงไป พอยิ้มก็รู้สึก ว่ามันไม่สวย (หัวเราะ) แต่พอได้ฉีดไหมทองแล้วก็ทำให้หน้าที่บุ๋มอิ่มขึ้นมา ไม่มีรอยบุ๋ม เหมือนเมื่อก่อน  ถามว่ามีผลข้างเคียงอะไรไหม ตั้งแต่ทำมาก็รู้สึกดี ไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย กลับทำให้หน้าเราดูดี ตอนนี้ก็เลยมีความมั่นใจมากขึ้น (หัวเราะ)” อธิบายจบพร้อมกับใช้นิ้วกดไป บริเวณแก้มที่ฉีดไหมทองเพื่อยืนยันว่าผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นที่พอใจมากเพียงใด  

 

นอกจากการดูแลใบหน้าให้คงความงามดังต้องการแล้ว ทรงผมบ๊อบหน้าม้ายังกระชากใจ (และวัย) จนอดถามไถ่ไม่ได้ เจ้าตัวหัวเราะก่อนกระซิบว่า เพิ่งเปลี่ยนทรงเมื่อต้นปี 2553 นี้เอง ลูกๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ใครเห็นเป็นทักกันเกรียวก็เท่านั้น   

 

// อดีตพยาบาลสาว พบรัก นายทหารชายเสื้อคับ

 

หากยังจำกันได้ คุณยุ้ย-อัมพาพันธ์ คือสตรีผู้โด่งดังในฐานะภรรยา พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หรือ “บิ๊กจ๊อด” นายทหารผู้มีบุคลิกเฉพาะตัว คือชอบแต่งกายรัดรูป สูบบุหรี่จัด และเป็นคนโผงผาง จนได้รับฉายาชายเสื้อคับ…ตำนานรักอันลือลั่นระหว่างคุณยุ้ยกับ พล.อ.สุนทร มิวายถูกหยิบยก กล่าวถึงทุกครั้งที่ชื่อของเธอไปปรากฏหรือเกี่ยวพันบนหน้าหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะเมื่อไม่นาน มานี้เธอถูกศาลพิพากษาจำคุก 16 ปี ในคดีเช็คเด้ง 70 ล้านบาท

 

คุณยุ้ยเกิดที่ จ.ชัยนาท แล้วไปโตที่นครสวรรค์ มีพี่น้อง 4  คน เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของ ครอบครัว คุณพ่อคุณแม่มีธุรกิจเดินเรือขนส่ง เรียกได้ว่าครอบครัวมีฐานะร่ำรวยในระดับต้นๆ ของจังหวัดก็ว่าได้ คุณยุ้ยเรียนจบเป็นพยาบาลที่ศิริราชพยาบาล ชีวิตคู่ของเธอเริ่มต้นกับ คุณหมอหนุ่มจาก จ.สิงห์บุรี มีลูกชายด้วยกัน 2 คน (ปอ-ถวนันท์, ป่าน-ถิรชนม์ ธเนศเดชสุนทร) จากนั้นความรักฉันสามี-ภรรยาก็ล่มกลางคัน ทำให้เธอต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง จนกระทั่งได้มาพบรักใหม่กับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์

 

นิยายรักฉบับตำนานที่สร้างความสั่นสะเทือนให้สถาบันครอบครัว เกิดขึ้นเมื่อบิ๊กจ๊อดพาเธอออก งานสังคมอย่างเปิดเผย และยอมให้ใช้นามสกุล “คงสมพงษ์” จนเป็นเหตุให้ พ.อ.คุณหญิงอรชร คงสมพงษ์ ภรรยาบิ๊กจ๊อดในขณะนั้นไม่พอใจ ถึงกับมีการฟ้องร้องไม่ให้คุณยุ้ยใช้นามสกุลนี้ กระทั่งศาลตัดสินยกฟ้อง แต่กระนั้น พล.อ.สุนทร ก็ได้ตั้งนาม
สกุลให้เธอใหม่เป็น “คงทรนง” ก่อนจะเปลี่ยนเป็น “ธเนศเดชสุนทร” และใช้มาจนถึงวันนี้

 

“บิ๊กจ๊อด” กับ พ.อ.คุณหญิงอรชร มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ พ.อ.อภิรัชต์ และ พ.ท.ณัฐพร  ได้แยกทางกันเมื่อปี 2533 หลังจาก พล.อ.สุนทร ใช้ชีวิตร่วมกับคุณยุ้ย โดยได้มีการ เปิดโครงการต่างๆ อาทิ การทำเหมืองหิน, ทำน้ำแร่ที่ จ.ตาก และเปิดร้านอาหารที่ฝรั่งเศส ทว่าโครงการดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร โดยเฉพาะร้านอาหารในฝรั่งเศส ถึงกับถูกโกงจนต้องขายไป ทั้งคู่จึงตัดสินใจกลับเมืองไทย ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านย่านสุขุมวิท และที่คุ้มพาเจริญ จ.ตาก จนกระทั่ง พล.อ.สุนทร เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่ออายุได้ 67 ปี

 

ความรักครั้งนั้น เธอเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิตที่ได้นำพาให้พบรักกับบิ๊กจ๊อด แล้วได้ใช้ชีวิต ครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุข แม้ว่าเธอจะมีลูกติดมา 2 คน แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ เพราะ บิ๊กจ๊อดให้ความรักความเอ็นดูลูกชายทั้งสองราวกับลูกของตัวเอง  

 

“ย้อนอดีตอีกแล้ว (หัวเราะ) ตอนนั้นลูกๆ ยังเล็กอยู่เลย แต่เขาจะเรียกท่านบิ๊กจ๊อดว่าคุณลุง โดยท่านจะคอยดูแลลูกทั้งสองอย่างดีเหมือนลูกแท้ๆ ของท่าน ท่านส่งเสียให้ไปเรียนอยู่เมืองนอก ตั้งแต่เด็ก ทำให้ลูกทั้งสองที่มีปมด้อยขาดคุณพ่อ ได้ท่านบิ๊กจ๊อดก็เข้ามาเติมเต็ม จนครอบครัวเราสมบูรณ์” คุณยุ้ยเล่าถึงวันวานที่ผ่านมาเนิ่นนานอีกครั้ง

 

 

 

// มรสุมชีวิตผ่านมรดกพันล้าน...สู่วิบากกรรมคดีเช็คเด้ง 70 ล้าน

 

หลายปีผ่านไปของการใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันระหว่างคุณยุ้ยกับชายเสื้อคับต้องจบลง เมื่อบิ๊กจ๊อด เสียชีวิตในปี 2542 และได้ทิ้งมรดกหลายพันล้านเอาไว้ให้ จากประเด็นเรื่องบ้านเล็กบ้านใหญ่ ที่เหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในทุกๆ สังคม แต่กรณีนี้กลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตและ ลุกลามไปไกลจนเป็นปัญหาระดับประเทศ เมื่ออดีตนายทหารรับราชการกินเงินเดือนเดือน ละแสนบาท ทำอะไรนักหนาถึงได้มีเงินทองทรัพย์สมบัติถึง 3,900 ล้าน เหตุนี้เองมรดกมูลค่า มหาศาลจึงกลายเป็นคดีความอยู่หลายปี จนท้ายที่สุดก็จบลงด้วยดีสำหรับทุกฝ่าย 

 

หลังผ่านมรสุมรุมล้อม คุณยุ้ยห่างหายจากการตกเป็นข่าวนานหลายปีทีเดียว กระทั่งเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2552 เธอถูกศาลพิพากษาจำคุกถึง 16 ปี ในคดีเช็คเด้ง 70 ล้านบาทเศษ ให้กับบริษัทค้าเพชร ขณะที่รวมโทษทุกกระทงแล้ว กฎหมายให้จำคุกสูงสุดแค่ 10 ปี ระหว่างที่มีการตัดสินลงโทษไปแล้วนั้น ทางด้านญาติได้นำโฉนดย่านตลิ่งชัน 4 ล้าน ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอขอไม่ลงในรายละเอียดเพราะ เป็นเรื่องที่ยังอยู่ในกระบวนการของศาล

 

“เรื่องของคดีตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะยังอยู่ในชั้นศาล แต่อยากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ พี่ไม่ได้ทำขึ้นเอง คดีนี้มันเกิดจากที่เราไว้ใจคนรอบข้างมากเกินไป ตรงนี้คงต้องขึ้นอยู่กับศาล พี่คงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะทนายกำชับเอาไว้ แต่พอเราศึกษาเรื่องธรรมะก็ทำให้เราสบายใจ ไม่ทุกข์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พอเราปล่อยวางก็ไม่ทุกข์ ที่สำคัญอยากจะบอกว่าความจริงก็คือ ความจริง เมื่อเราไม่ได้ทำ ความจริงจะปรากฏเอง พี่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นวิบากกรรม ที่สุดมันสอนให้พี่รู้จักปลงกับชีวิต” เธอเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวิบากกรรมที่กำลังเผชิญนั่นเอง

 

 

 

 //ธรรมะสอนให้ปล่อยวาง...ไม่ยึดติดกับอดีต

 

จากชีวิตที่เคยเฉิดฉายในสังคมชั้นสูง เมื่อถึงคราวที่ละวางกับสิ่งปรุงแต่งรอบตัว เธอจึงหันหน้าเข้าสู่เส้นทางธรรมด้วยการปฏิบัติธรรมกับ หลวงพ่ออารยะวังโส เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จ.ลำพูน นั่นเองที่ทำให้เธอเข้าใจความเป็นชีวิต ถึงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง จนสุขภาพร่างกายเริ่มอิ่มเอิบมีน้ำมีนวล เพราะธรรมะสอนไม่ให้เธอยึดติดกับอดีต

 

“ช่วงประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาได้ไปปฏิบัติธรรมและศึกษาธรรมะกับหลวงพ่ออารยะวังโส ก็คือ  ตอนนั้นชีวิตมันเคว้งคว้างมาก มีแต่ความวุ่นวาย ชีวิตไม่มีอะไรเป็นแก่นสารเลย (ระหว่างสนทนาส่งยิ้มมาให้บ่งบอกถึงความสุขที่ได้จากปฏิบัติธรรม) ในที่สุดก็ตอบคำถามว่า ชีวิตคืออะไร พอได้ศึกษาธรรมะแล้ว ก็สามารถตอบได้ว่าชีวิตคือความว่างเปล่า แต่ก่อนหน้านั้นความว่างเปล่าที่มีมันก็จะมีแต่ความทุกข์ คือมีแต่กิเลสตัณหา มีแต่ความอยาก แต่พอเราได้ปล่อยแล้วเนี่ย ก็รู้สึกได้ว่าชีวิตนี้อะไรก็ได้เลย อย่างที่เห็น ชีวิตนี้ไม่จำเป็นต้องนั่ง แต่รถยนต์อย่างเดียว เราก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าได้ รู้จักใช้ชีวิตให้มันติดดินมากขึ้น” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง พลางบอกเหตุผลว่า ที่หันมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพราะคน ขับรถคู่ใจเริ่มชราภาพตามวัย จึงไม่อยากรับคนขับรถใหม่นั่นเอง 

 

เมื่อสุขภาพใจแข็งแรง สุขภาพกายภายนอกก็ดูเหมือนจะแข็งแรงตามไปด้วย โดยเธอจะให้ความ สำคัญกับการกินข้าวอย่างมาก ยิ่งมีน้ำพริก ผัก และน้ำซุป ยิ่งทำให้เจริญอาหาร

 

“ถ้าพูดถึงเรื่องสุขภาพ พี่จะดูแลสุขภาพจิตสุขภาพใจที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างดี เพราะถ้าสุขภาพจิต สุขภาพใจแข็งแรง สุขภาพกายก็จะตามมา เมื่อก่อนนี้ไม่มีหลักจะล่องลอยไปเรื่อยตามกิเลส ตัณหาต่างๆ แต่ตอนนี้มาตั้งหลักชีวิตได้ การที่เราต้องดูแลจิตใจให้เรามีความเมตตา ที่สำคัญเราต้องเมตตาตัวเราเองก่อน เพราะที่ผ่านมาเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น สงสารคนอื่น จนลืมที่จะดูแลตัวเอง ทำให้ชีวิตเรามีแต่ความทุกข์ เกิดปัญหามากมาย  

 

“สิ่งสำคัญพอมาได้ปฏิบัติธรรมก็สอนให้เราต้องไม่ควรยึดติด แล้วสอนให้เราต้องรู้จัก ปล่อยวางจากอดีต ซึ่งอดีตที่เราเคยรุ่งโรจน์มาอย่างไร วันนี้พี่ยุ้ยจะปล่อยวางจากอดีต จากคนรอบข้าง แม้กระทั่งลูกเราก็จะปล่อยให้เป็นอิสระของเขา จะไม่เข้าไปยุ่งเลย ทำให้้ปล่อยวางตัวเอง และไม่ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งต่างๆ เลย (หัวเราะ) วันนี้อยากบอกว่า ชีวิตไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ชีวิตนี้พอแล้ว” นี่คือวิถีชีวิตในการปฏิบัติธรรมที่สอน ให้ดำรงชีวิตอย่างไม่ประมาท

 

 

 

// มรณสติ...เตรียมพร้อมที่จะตาย

 

อดีตที่ถูกรายล้อมด้วยสิ่งเร้าและความเลิศหรู วันนี้คุณยุ้ยกล่าวอย่างคนรู้ซึ้งในหลักธรรม ละแล้วซึ่งกิเลสตัณหา ที่สำคัญเธอพร้อมที่จะตายจากโลกนี้ได้ทุกเมื่อ เนื่องจากเวลานี้ลูกชายทั้ง 2 คน ต่างไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง เรียนจบได้เกียรตินิยมด้วยกันทั้งคู่ โดยลูกชายคนโตจบ ปริญญาตรี Architecture ที่ Oxford Brookes University

 

ปริญญาโท Urban Design ที่ Westminster University ส่วนคนเล็กเรียนจบปริญญาตรี Retail Design Management ที่ London College of Printing ปริญญาโท MBA เอก Finance & Marketing ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และร่วมกันทำโครงการ D'65 Condominium มูลค่ากว่า 640 ล้านบาท จนสำเร็จเสร็จสิ้น   

 

“ในแต่ละวันพี่จะชอบใช้ชีวิตให้มีประโยชน์มากขึ้น เพราะลูกๆ ได้มาทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับคอนโด ได้เห็นเขาทำงานกันประสบความสำเร็จ เราในฐานะแม่ก็มีความสุข ชีวิตที่เหลือ วันนี้ก็ได้แต่ คิดถึงการเตรียมความพร้อมที่จะตาย (มรณสติ) พร้อมที่จะต้องจากโลกนี้ไป อยากจะทำอะไรที่เป็นสิ่งดีๆ และไม่อยากทำอะไรที่เป็นสิ่งไม่ดี เป็นบาปที่ติดตัวเราไป ตอนนี้อยากจะสะสมบุญเอาไว้ให้มากๆ ทุกวันนี้ที่จะสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำทุกวัน ก่อนนอนก็จะนั่งสมาธิ ตอนนี้สามารถนั่งได้เป็นชั่วโมงทั้งเช้าและเย็น

 

“หลายปีก่อนจะชอบไปนั่งกรรมฐานที่วัด แต่ตอนนี้สามารถมานั่งปฏิบัติเองที่บ้านได้ อยากจะบอกว่าการนั่งสมาธิช่วยเราได้เยอะมาก เพราะเมื่อไหร่ที่มีความทุกข์ การนั่งสมาธิ นั่ง สูดลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องคิดอะไรเลย เพียงเท่านี้ชีวิตที่เป็นทุกข์ก็กลายเป็นสุขได้ การนั่งสมาธิสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตอย่างมากก็คือ ทำให้ชีวิตหยุดความวุ่นวาย  หยุดความอยากลงได้เยอะมาก” 

 

ประเภท “อยากมี อยากได้ อยากดัง” ทุกอย่างเธอหยุดแล้วจริงๆ