เติมเต็มฝันวัยเยาว์ เจ้าหญิงคิตตี้…แก้ม เดอะสตาร์

เติมเต็มฝันวัยเยาว์ เจ้าหญิงคิตตี้…แก้ม เดอะสตาร์

 

 

 

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง • ภาพ : ชวกรณ์ สะอาดเอี่ยม  •
แต่งหน้า : ณธรา  ธีระตระการ

เติมเต็มฝันวัยเยาว์ 
เจ้าหญิงคิตตี้…แก้ม เดอะสตาร์ 

จากวัยเด็กที่มีความใฝ่ฝันอยากมีตุ๊กตาคิตตี้เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ  แต่สุดท้ายกว่าความฝันจะกลายเป็นความจริง ก็เมื่อตอนที่บรรดาแฟนคลับซื้อตุ๊กตาคิตตี้มาให้เป็นรางวัลสมัยประกวดเดอะสตาร์  


นักร้องสาวผิวเข้ม แก้ม เดอะสตาร์ หรือ วิชญาณี เปียกลิ่น ยอมเปิดห้องนอนสีชมพูภายในบ้านพักย่านลาดพร้าวให้ชมเป็นครั้งแรก และถึงกับตะลึงเมื่อได้เห็นบรรดาตุ๊กตาคิตตี้นับร้อยอัดแน่นอยู่ภายในห้อง ไม่เว้นแม้แต่ผ้าปูที่นอนและแอกเซสซอรีอื่นๆ ล้วนเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์เฮลโล คิตตี้ (Hello Kitty) ทั้งสิ้น เธอบอกเล่าความคลั่งไคล้ซึ่งเป็นปมในใจมาตั้งแต่ในวัยเยาว์ 
//ความฝันที่มีชีวิต
แก้มเล่าให้ฟังว่า สมัยเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านสามกอง จ.ภูเก็ต ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประกวดร้องเพลงครั้งแรกในชีวิต ก่อนจะตามมาอีกหลายๆ เวทีในเวลาต่อมา เพลงที่ใช้ประกวดครั้งนั้นคือเพลง “สั่งนาง” ของ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ระหว่างที่เดินสายประกวดร้องเพลง ภายในใจก็เฝ้าครุ่นคิดถึงตุ๊กตาคิตตี้อยู่ตลอดว่า สักวันต้องมีคิตตี้เป็นของตัวเองให้ได้
“ตอนเด็กๆ แก้มชอบตุ๊กตาคิตตี้มาก ที่ภูเก็ตไม่ได้มีช็อปคิตตี้ โหยหามาก (ยิ้ม) แต่แม่เองก็ไม่เห็นด้วย ไม่ซื้อให้ บอกว่ามันเปลือง แต่แก้มก็อยากได้ เพราะเห็นจากการ์ตูน เห็นเพื่อนมีเราก็อยากมีบ้าง พ่อแม่เพื่อนขึ้นมากรุงเทพฯ เขาก็ซื้อตุ๊กตาคิตตี้ฝากกัน เคยคิดว่าถ้าวันหนึ่งเราโตขึ้นแล้วทำงานเราจะซื้อคิตตี้ให้ได้ (หัวเราะ) สมัยเรียนมีแค่กระเป๋าตังค์ที่เป็นคิตตี้ที่เก็บตังค์ซื้อเอง” เจ๊แก้มของเพื่อนๆ เล่าความในใจที่อัดอั้นมานาน 
“แก้มเป็นนักร้องโรงเรียนตั้งแต่เด็ก เวลาไปงานร้องเพลง คุณครูก็จะมีค่าขนมให้ แก้ม ก็จะเก็บตังค์ซื้อเอง อีกอย่างแก้มเป็นคนตัวใหญ่ นอกจากเป็นรองหัวหน้าห้องแล้ว ยังเป็นเจ๊ใหญ่ในห้อง อยากใส่เสื้อตัวเล็กแบบคิตตี้ก็ไม่ได้ เลยไม่เคยมีชุดน่ารักใส่สมัยเด็กๆ เซ็งตัวเองตลอด เพื่อนๆ จะเรียก ‘พี่แก้ม’ กันทั้งห้อง ขนาดเพื่อนผู้ชายยังกลัวเรา  แล้วจะให้มาชอบคิตตี้ก็คงไม่ได้ เหมือนกับมีมาดติดตัวแบบนั้นมาตลอด กลุ่มเพื่อนของแก้มผิวจะสีแทนเหมือนกันหมด แต่กลับชอบสีชมพูเหมือนกัน อย่างกระเป๋าตังค์ก็เป็นสีชมพู เพื่อนผู้ชายบางคนหมั่นไส้เอากระเป๋าไปซ่อนก็มี” 
//คิตตี้นับร้อยจากแฟนคลับ
ย้อนไปสาวแก้มเคยเป็นเจ้าของตำแหน่งเจ้าแม่เวทีประกวด เนื่องจากตั้งแต่เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษา ณ โรงเรียนสตรีภูเก็ต โดยได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนเดินสายประกวดร้องเพลงในเวทีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมี อาจารย์ฉวีวงศ์ สกุลตัน อาจารย์สอนศิลปะเป็นผู้สนับสนุน จนได้รับรางวัลชนะเลิศหลายรายการ ระหว่างนี้ได้ฝึกฝนการร้องทั้งเพลงไทยและสากลในแนวเพลงอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะแนวป๊อป อาร์แอนด์บี และโอเปร่า
ต่อมาในปี 2551 ขณะที่อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีภูเก็ต  เธอได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 4 โดยได้แรงบันดาลใจจากผู้ชนะการแข่งขันเดอะสตาร์ปีที่ 1 คือ สน-สนธยา ชิตมณี ซึ่งมาจากภาคใต้เช่นกัน ที่สุดเธอก็สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นผู้หญิงคนแรกของไทยที่ชนะการแข่งขันประกวดร้องเพลงแนวเรียลิตี้โชว์ที่ตัดสินด้วยคะแนนโหวตจากประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นที่มาของตุ๊กตาคิตตี้ที่แฟนคลับมอบให้เป็นที่ระลึกนับร้อยตัว
“ตอนประกวดเดอะสตาร์ก็แอบคิดในใจว่าถ้าพี่ๆ แฟนคลับรู้ว่าแก้มชอบคิตตี้เขาคง ซื้อมาให้เราแน่เลย ถ้างั้นเราควรพูดสิว่าเราชอบคิตตี้ (ยิ้ม) คิดแบบนี้อายมาก พอตอนนี้มานั่งคิด แก้มเธอบ้ามาก จะอยากได้อะไรขนาดนั้น ตอนอยู่ในบ้านก็จะติดกิ๊บคิตตี้ ขนาดเสื้อผ้าที่เอามาเองก็จะเป็นคิตตี้ จนพี่ที่ดูแลมาบอกว่าไม่ได้นะ เพราะแก้มชอบใส่เสื้อผ้าชมพูก็ชมพูทั้งชุด ฟ้าก็ฟ้าทั้งตัว เขียวก็เขียวทั้งตัว แล้วมีครบเซตมาก ถ้าเป็นเด็กพวกคุณหนูคงเหมาะ แต่หนูไม่ใช่ หนูรู้ตัวว่าไม่เหมาะจริงๆ แล้วไงเป็นสิ่งที่เราชอบ
“หนูอยู่ในบ้านหนูบอกว่าชอบคิตตี้มาก แฟนคลับก็ซื้อเสื้อคิตตี้ให้ แล้วของที่เป็นคิตตี้แก้มจะได้เต็มหมดเลย พี่บีซึ่งทำงานที่นกแอร์รู้ว่าแก้มชอบคิตตี้มาก บินไปประเทศไหนจะซื้อมากฝากตลอด ไปฝั่งแคนาดาก็ซื้อคิตตี้มาฝาก จนแก้มคิดในใจพี่ไม่ให้อย่างอื่นแก้มบ้างหรือ (หัวเราะ)”  เธอเล่าตำนานเรื่องราวของการสะสมตุ๊กตาคิตตี้ของสาวเสียงทรงพลัง 
“วันนี้แก้มมีคิตตี้เป็นร้อยๆ ตัว แก้มก็นึกถึงตัวเราตอนเด็กก็อยากมี วันนี้แก้มมีมากแล้วก็ได้แบ่งส่วนหนึ่งเอาไปให้น้องที่ด้อยโอกาส เพราะเชื่อว่าน่าจะมีน้องๆ ที่เป็นเหมือนเราแน่ๆ อย่างน้อยก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับน้อง ก็เป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของแก้มต่อไป คิตตี้จะได้ไม่สาบสูญแน่นอน” เธอเล่าน้ำเสียงปลาบปลื้มใจ
// “รัดเกล้า” เพื่อนนักสะสม
ปัจจุบันสาวแก้มเรียนสาขาวิชาดนตรีแจ๊ซ คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีหน้าก็จะเป็นบัณฑิตตามที่เธอตั้งใจแล้ว ระหว่างเรียนก็มีเพื่อนๆ บางคนก็เป็นคอเดียวกันคือ รักในความเป็นตุ๊กตาคิตตี้เหมือนกัน
“เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันจะรู้ว่าแก้มชอบคิตตี้ แต่ไม่รู้ว่าเราเป็นหนักขนาดนี้ แรกๆ จะดูนิ่งๆ พอเริ่มคุ้นเคยกันเพื่อนๆ เริ่มเปิดเผยตัวเองมากขึ้นว่าชอบคิตตี้ (หัวเราะ) ไม่ว่าจะเป็น ซองใส่ไอแพด กิ๊บติดผม ข้างของทุกอย่างเป็นคิตตี้ทั้งหมด จนเพื่อนๆ บอกไม่เป็นไร รับได้ๆ ยิ่งเวลากลับมาอยู่ในห้องของเราก็ยิ่งมีความสุข เวลาเหนื่อยๆ เปิดประตูเข้าห้องสีชมพูที่มีคิตตี้ที่เรารัก แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แต่จะถูกพี่โอปอล์ (ปาณิสรา พิมพ์ปรุ) แซวตลอดว่า แกหยุดคิตตี้ได้ไหม เพราะพี่โอปอล์เกลียดคิตตี้ มีวันหนึ่งพี่โอปอล์เห็นรถสีขาวป้ายทะเบียนเป็นคิตตี้ พี่โอปอล์บอกกับพี่พีท เดอะสตาร์ (ฉลองรัฐ นพวิชัย) ว่า นี่ถ้ารถคันนี้เป็นของแก้มฉันจะโกรธมันมาก แล้วปรากฏว่า เป็นรถของแก้มจริงๆ ด้วย (หัวเราะ) พี่โอปอล์บอกฉันไม่ชอบสีชมพู แต่เป็นสีที่แกชอบฉันรับได้”
กระทั่งวันหนึ่งสาวแก้มได้เล่นละครเวทีเรื่อง ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล ที่ทำให้สาวแก้มได้เจอเพื่อนที่รู้ใจคอเดียวกันอย่าง ต๊งเหน่ง-รัดเกล้า อามระดิษ นักร้องหญิงแนวหน้าของประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ที่หลงใหลในตุ๊กตาคิตตี้เช่นกัน
“พี่ต๊งเหน่งกับแก้มชอบคิตตี้มาก แม้ว่าคิตตี้จะไม่เข้ากับเราสองคน แต่เราสองคนชอบคิตตี้มากค่ะ พี่ต๊งเหน่งเห็นภาพในห้องนอนของแก้มที่เต็มไปด้วยคิตตี้มากมาย ก็บอกว่าอยากไป แบบว่าคนคอเดียวกันก็จะรู้ใจกัน (หัวเราะ) พี่ต๊งเหน่งบอกว่า อย่าไปแคร์ถ้าเราชอบ ไม่ต้องฟังคนอื่น ถ้าตัวเราทำแล้วมีความสุข เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ใครจะแซวก็ช่างเขา ปล่อยเขาไป ไม่เป็นไรพี่ก็ชอบเหมือนกัน เราสองคนถ้าเจอคอลเลกชั่นใหม่ แก้มก็จะซื้อก่อนเลย แล้วจะไปถามพี่ต๊งเหน่งมีหรือยัง น้องมีแล้วนะ” เธอเล่าน้ำเสียงเปี่ยมสุขเมื่อเอ่ยถึงของสะสมสุดโปรดที่เติมเต็มความฝันในวัยเยาว์ให้เกิดขึ้นได้จริง

/////////////
       Hello kitty ถูกสร้างขึ้นในปี 1974 เมื่อครั้งบริษัท ซานริโอ ยังเป็น บริษัทน้องใหม่ในวงการธุรกิจที่โตเกียว บริษัทได้มอบหมายให้ อิคุโกะ ชิมิซุ (Ikuko Shimizu) เป็น ผู้ออกแบบตุ๊กตาสัตว์ที่ต้องโดนใจสาวๆ ทุกคนที่เห็น ในช่วงเวลานั้น ซานริโอมีตุ๊กตาหมีและสุนัขอยู่แล้ว พวกเขาต้องการตัวการ์ตูนใหม่เพื่อทำการตลาด
       ต่อมา ชิมิซุ นึกถึงลูกแมวน้อยน่ารักตัวเมีย เธอจึงเริ่มต้นร่างลูกแมวตัวน้อยสีขาวมีโบสีแดงหน้าตาบ้องแบ๊ว และในวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 1974 เฮลโล คิตตี้ก็ปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรก