GC จับมือ Kuraray และ Sumitomo ตั้งบริษัทร่วมทุน “Kuraray GC Advanced Materials”
GC จับมือ Kuraray และ Sumitomo ตั้งบริษัทร่วมทุน “Kuraray GC Advanced Materials”
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC Mr. Masaaki Ito, Representative Director and President บริษัท Kuraray Co., Ltd. และ Mr. Masahiro Fujita, Representative Director, Executive Vice President, General Manager, Mineral Resources, Energy, Chemical & Electronics Business Unit บริษัท Sumitomo Corporation ร่วมเปิดบริษัทร่วมทุน บริษัท คุราเร่ จีซี แอดวานซ์ แมททีเรียลส์ จำกัด (Kuraray GC Advanced Materials Co., Ltd.) เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง ได้แก่ High-Heat Resistant Polyamide-9T (PA9T) และ Hydrogenated Styrenic Block Co-Polymer (HSBC) ในประเทศไทย
โครงการร่วมทุนดังกล่าวมีแผนที่จะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ด้วยกำลังการผลิต PA9T 13,000 ตัน/ปี และ HSBC 16,000 ตัน/ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายเกรดพิเศษเพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ (Auto) และ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E&E) ซึ่งมีปริมาณความต้องการและอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้วัตถุดิบจากโรงโอเลฟินส์ของบริษัทฯ มาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม
สำหรับ PA9T มีคุณสมบัติโดดเด่นทางความร้อนและเชิงกล (Thermal and Mechanical Properties) มีความทนทานต่อสารเคมี และความสามารถในการขึ้นรูปที่คงตัว เหมาะสำหรับขึ้นรูปชิ้นงานที่มีความละเอียดซับซ้อน มีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้ทดแทนโลหะในการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ทำให้รถยนต์มีน้ำหนักลดลงและประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง
ส่วน HSBC มีคุณสมบัติเหมือนยางและพลาสติก คือ ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มเหมือนยาง ทนทาน ต่อสภาพอากาศได้ดี ในขณะที่สามารถฉีดขึ้นรูปได้ง่ายและนำกลับมารีไซเคิลใช้งานใหม่ได้เหมือนพลาสติก ซึ่ง HSBC ถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์และเด็ก ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เช่น อุปกรณ์ว่ายน้ำ ซีลยางหน้าต่าง ด้ามแปรงสีฟัน เป็นต้น
โครงการร่วมทุนนี้ GC จะเข้าถือหุ้น 33.4% บริษัท Kuraray Co., Ltd. (KRR) ประเทศญี่ปุ่น เข้าถือหุ้นผ่านบริษัทในเครือ 53.3% และ บริษัท Sumitomo Corporation (SC) ถือหุ้นผ่านบริษัทในเครือ 13.3%
นับเป็นก้าวที่สำคัญของ GC ที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) ตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อมุ่งสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่จะสามารถต่อยอดการดำเนินธุรกิจไปสู่ Performance Chemicals เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นที่จะขยายธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุก่อสร้าง
บริษัท Kuraray Co., Ltd. เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษชั้นนำของญี่ปุ่น มียอดขายรวมในปี 2560 อยู่ที่ 4.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องยาวนาน จนได้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษในกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ Vinyl Acetate Resin, Isoprene, Functional Materials และ Fibers & Textiles เป็นต้น และจัดจำหน่ายอยู่ใน 27 ประเทศทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
บริษัท Sumitomo Corporation เป็นบริษัทชั้นนำด้าน Trading และการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ทั้งนี้ ในปี 2560 บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 7.6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ มีการดำเนินธุรกิจกับลูกค้าผ่านเครือข่าย 130 แห่ง ครอบคลุม 65 ประเทศทั่วโลก มีชนิดของผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่หลากหลาย ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Metal Products, Transportation & Construction Systems, Infrastructure, Media & ICT, Living Related & Real Estate และ Mineral Resources, Energy, Chemical & Electronics
พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ GC ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ใน 8 กลุ่มธุรกิจหลัก ปัจจุบัน มีกำลังการผลิตปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์รวม 10.21 ล้านตันต่อปี และมีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบและ คอนเดนเสทรวม 280,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ ไปยังธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Performance and Specialty Chemicals) ทั้งนี้เพื่อปรับเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ ไปสู่สินค้าที่มีมูลค่าสูง มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม อันเป็นการตอบสนองนโยบายประเทศไทย 4.0 เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมายร่วมกันกับภาครัฐ