อภิสิทธิ์ กัมพลาวลี "ธรรม"..ทำให้คนเปลี่ยน

อภิสิทธิ์ กัมพลาวลี "ธรรม"..ทำให้คนเปลี่ยน

 

 

 

 

 

 


เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง   ภาพ : วันชัย ไกรศรขจิต

 

อภิสิทธิ์ กัมพลาวลี

"ธรรม"..ทำให้คนเปลี่ยน

 

 

สำนักพิมพ์ใยไหมถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อปี ๒๕๓๔ ในความดูแลเอาใจใส่ของนายอภิสิทธิ์ กัมพลาวลี กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์ใยไหม และคลอดผลงานเล่มแรกออกมา ชื่อ ไขว่คว้าด้วยใจ ใยไหมยึดแนวทางการผลิตหนังสือกลอนสำหรับวัยรุ่นตอนต้นเป็นหลัก และมาประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อผลิตลูกครึ่ง Friendship กับหนังสือกลอนที่ชื่อ เธออยากเซ็นต์เฟรนด์ชิปของฉันไหม ออกมา นับจากวันนั้น หนังสือของใยไหมจึงมีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๔๕ หนังสือแนวใหม่อีกเล่มหนึ่งจากใยไหม ก็ได้วางบนแผงหนังสือทั่วประเทศ และเพียงในเวลาไม่นาน Life On The Rock จากปลายปากกาของ ว.แหวน ก็กลายเป็นหนังสือขายดีติดอันดับ และมียอดพิมพ์จำหน่ายถึงเดือนละ ๕,๐๐๐ เล่ม หนังสือในแนวข้อเขียนที่ให้มุมมองใหม่ ๆ สร้างทัศนคติเชิงบวกต่อตัวเองและชีวิต จึงกลายเป็นหนังสือแนวใหม่ที่ใยไหมผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง และการจัดพิมพ์หนังสือธรรมะของพระอาจารย์ชุติปัญโญ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเช่นกัน

อภิสิทธิ์ เล่าว่า ช่วงที่เป็นวัยรุ่นมีการฟันฝ่าอุปสรรคมามาก เราเป็นหนุ่มมีไฟ ขณะเดียวกันก็แบกความคาดหวังและความทุกข์เอาไว้ด้วย ตรงนั้นเป็นอะไรที่ได้สะสมความทุกข์เอาไว้มาก พอเรารู้สึกว่ามันหนักก็จะหาทางออก เผอิญโชคดีที่สิ่งแวดล้อมเพื่อนสำคัญมาก วันนั้นเรามีความรู้สึกกับปัญหาที่หนักเกินไปแล้วอยากหาทางออก พอดีที่เพื่อนคนหนึ่งได้นำหนังสือ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ของ สุทัสสา อ่อนค้อม นามปากกาของ รศ.ดร. สุจิตรา รณรื่นรองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี อ่านแล้วก็เริ่มรู้สึกสนใจธรรมะมาตั้งแต่บัดนั้น แล้วได้ปฏิบัติธรรมในช่วงวันเกิดทุกปี

 

กระทั่งพระอาจารย์ชุติปัญโญก็ชวนไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าโสมพนัส จ.สกลนคร ตามแนวของหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ พอได้ปฏิบัติธรรมที่นั่นแล้วรู้สึกอะไรได้หลายๆอย่าง ตรงนี้อาจเป็นไปได้ว่าเราสัมผัสบางสิ่งบางอย่างได้ ทั้งความสงบเย็นในเบื้องต้น จึงเป็นเหตุจูงใจให้เราอยากจะศึกษาธรรมะให้ลึกซึ้งต่อไป บวกกับพระอาจารย์เป็นผู้สอนที่ท่านสนใจใส่ใจในการกระตุ้นหาจุดอ่อนของเราที่ฝึกปฏิบัติแล้วทำไมยังไม่ก้าวหน้า เรียกได้ว่าท่านจะสอบอารมณ์เรา หลังจากนั้นจึงได้หันมาสนใจปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังตลอดระยะเวลา ๓ ปีได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่ดีขึ้น

 

"พอได้ปฏิบัติธรรมแบบนี้แล้ว เราได้เกิดความเข้าใจว่าอะไรควรไม่ควร เราเข้าใจธรรมชาติของชีวิตเราได้มากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนเวลาที่เราทุกข์ เราก็ไม่ได้มองมายังที่ตัวเรา แต่เราจะคิดว่าเราทุกข์เพราะเรื่องโน้นเรื่องนี้ คนนั้นคนนี้ เป็นการมองออกนอกตัว หรือเราไม่สามารถที่จะรู้ได้เวลาเช่น เวลาที่เราเครียดเราก็รู้ได้ว่าเกิดจากที่เราไปยึดติดกับมันที่ไม่ยอมปล่อยวาง แต่พอได้เข้ามาปฏิบัติผมเองได้เข้าไปมีประสบการณ์เข้ามาดูอารมณ์ตรงนั้นแหละที่ทำให้เรารู้จริงได้ด้วยตัวเองถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง แท้ที่จริงแล้วจะสุขหรือทุกข์อยู่ที่ตัวเรา" นี่ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

 

อภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นมาจึงได้ให้พนักงานของบริษัททุกคนได้เข้ามาปฏิบัติธรรม พอปฏิบัติธรรมกลับมาแล้วจะพบว่าจิตใจของพนักงานทุกคนจะโปร่งโล่งสบาย ตรงนี้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพนักงานไปสู่แนวทางที่ดีขึ้นในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออก รวมทั้งการพูดจา จึงมองว่าตรงนี้เราได้อานิสงค์มาจากการปฏิบัติธรรม เราน่าจะนำมาสานต่อการปฏิบัติธรรมในที่ทำงาน จึงเกิดแนวคิดขึ้นให้พนักงานทุกคนทำวัตรเช้าด้วยการสวดมนต์ เจริญสติร่วมกันทุกวันอังคารสัปดาห์ละ ๑ วัน เพราะมองว่าการทำงานต้องใช้การมีสมาธิที่ค่อยดีพอสมควร อย่างน้อยก็เป็นอุบายให้กับพนักงานทุกคนจิตใจที่ดีต่อกัน

 

การสวดมนต์เราจะใช้บทแปลที่จะโน้มน้าวจิตใจให้กับพนักงานทุกคนทำความเข้าใจกับบทสวดไปด้วย เกี่ยวกับเรื่องสัจธรรมชีวิต เช่น ขันธ์ ๕ คือ ตัวตนหรือชีวิตของตน อันประกอบด้วยฝ่ายรูปและฝ่ายนาม ที่แยกออกเป็น ๕ ขันธ์หรือกอง อันประกอบด้วย รูป(กาย) เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ซึ่งทุกอย่างไม่ว่ากายกับใจมันเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงถ้าเราไปยึดมันเอาไว้เราเองก็จะเป็นทุกข์ หรือบางครั้งคุยกับเพื่อนไม่ถูกใจมีอารมณ์โกรธขึ้นมาพนักงานเหล่านี้ก็จะสามารถรู้ได้ว่าความโกรธนั้นเป็นแค่อารมณ์ความคิดอย่าไปยึดมัน ตรงนี้ก็จะรักษาใจให้เป็นปกติได้ และถ้าเราเรียนรู้ธรรมะมากขึ้นแล้วพระเครื่องก็ไม่จำเป็นต้องแขวน

 

"ผมได้ให้พนักงานทำวัตรเช้าโดยไม่ได้เป็นข้อบังคับ อยากเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานมากกว่า เพราะเวลาที่เราจะทำงานก็เหมือนการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วต้องรอให้มันวอร์มเครื่อง เราเองก็เหมือนกันยิ่งเป็นเด็กศิลป์จะทำงานเขายังบอกว่าขอบิ้วอารมณ์ก่อนถึงทำ ซึ่งการทำวัตรเช้าก็เป็นการฝึกใจของเขาให้เป็นปกติ จะได้ช่วยในการแก้ปัญหาในการทำงาน แล้วทุกปีจะปิดบริษัทโดยให้พนักงานทุกคนไปร่วมปฏิบัติธรรม ๗ วัน ไปอยู่กินที่วัด เพื่อให้เขาได้รู้จักตัวเอง แล้วเท่าที่สังเกตเขามีการพัฒนาด้านจิตใจที่ดีมาก เพราะสามารถทำให้ตัวเองรู้จัก สงบ เย็นเป็น" นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย 

 

"เวลาที่เราทุกข์ เราจะคิดว่าาทุกข์เพราะเรื่องโน้นเรื่องนั้น แท้ที่จริงแล้วจะสุขหรือทุกข์อยู่ที่ตัวเรา"