โยคะทำให้เกิดสมาธิ ปาริชาติ ศิลปอาชา

โยคะทำให้เกิดสมาธิ ปาริชาติ ศิลปอาชา

 

 

 

 

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง   ภาพ :  ชวกรณ์ สะอาดเอี่ยม

 

โยคะทำให้เกิดสมาธิ ปาริชาติ ศิลปอาชา

 

"การทำสมาธิ กับการเล่นโยคะ เป็นเรื่องเดียวกันเลย เพราะทุกท่าของการฝึก โยคะ เป็นการสัมพันธ์กับลมหายใจ ทั้งเข้าและออกของเรา เมื่อจิตใจเรากำหนด อยู่ที่ลมหายใจ ก็ทำให้จิตเราเกิดสมาธิ"

 

นี่เป็นเหตุของการฝึกโยคะ ที่มีสัมพันธ์กันก่อให้เกิดเป็นสมาธิ ของ น.ส.ปาริชาติ ศิลปอาชา หรือ "ยุ้ย" ลูกสาวคนที่ ๒ ของ นายบรรหาร-คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ซึ่งหันมาเอาดีทางด้านครูสอนโยคะ 

 

สำหรับประโยชน์ของการฝึก และเล่นโยคะ ปาริชาติ บอกว่า ตามหลักพระพุทธศาสนา ก็สามารถนำมาอิงกับ การฝึกโยคะให้เป็นสมาธิได้ เมื่อใจเรานิ่ง เรามีสมาธิจิตมีการจดจ่ออยู่กับ ลมหายใจ ตรงนี้ก็สามารถเกิดเป็น สมาธิขึ้นในใจจิตก็สงบ 

 

ฉะนั้นคนที่ฝึกโยคะ ก็เหมือนเป็นคนที่ได้ฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง หลายคนที่ฝึกโยคะ ก็ไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่รอบข้าง ทำได้แบบนี้ เพราะเราได้มีการกำหนดจิต อยู่กับสิ่งที่กำลังทำตรงนั้น ใครก็ตามที่เล่นโยคะแล้วจิตใจไม่นิ่ง ก็ส่งผลให้จิตใจจะกระเจิง ความมั่นคงในการฝึกโยคะ ท่าต่างๆ ก็จะไม่นิ่งและไม่มั่นคง 

 

ส่วนเหตุผลของการเล่นโยคะนั้น เกิดจากพี่สาว (ส.ส.กัญจนา ศิลปอาชา) ได้ชวนไปสมัคร ไล่ๆ กัน เรียน พร้อมกัน แต่ว่าเราอาจจะให้ความสนใจมากกว่าพี่สาว มีความรู้สึกว่าชอบ ไม่รู้เป็นอะไร เห็นภาพที่มีคน ทำท่าสวยๆ ในหนังสือ ก็รู้สึกว่าชอบ อยากทำได้บ้าง กระทั่งวันหนึ่งไม่ได้เล่น จะรู้สึกว่าอยากเล่นมาก ช่วงแรกๆ อาจจะไม่ถึงขนาดนี้ ขี้เกียจก็มี พอเวลาผ่านไปไม่ได้ทำท่า ไหว้พระอาทิตย์ รู้สึกว่าเหมือน มีบางอย่างขาดหายไปจากชีวิต 

 

ระหว่างเรียนโยคะได้ประมาณ ๖ เดือน ได้สมัครเรียนหลักสูตร ของการ เป็นครูสอนโยคะ ช่วงที่เรียนต่อ อยากมีความรู้เพิ่มเติม จึงได้เรียนหลักสูตร ของการเรียนเพื่อเป็นครูสอนโยคะ พอเรียนจบก็มีโอกาสได้สอน นักเรียน ทำอะไร เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น แต่ด้วยความที่เราชอบ จะไม่เหมือน กับเรามา ทำงาน สอนด้วย เล่นด้วย สนุกดี เป็นความสุขอย่างหนึ่ง ทำให้เราค้นพบ ในสิ่งที่ ต้องการ ในชีวิต ได้ทำแบบไม่ต้องบังคับตัวเอง 

 

"หลังจากหันมาเล่นโยคะชีวิตเปลี่ยนไปมาก ทำให้ความคิดเป็นระบบ ใจก็เย็นลง ความรู้สึกดีขึ้นจริง แม้ว่า จะไม่ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่สิ่งที่เปลี่ยน แปลงอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น เวลาคิดก็คิดอย่างมีสติมากขึ้น พอจะโกรธใครทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ลดลง เรื่อยๆ ทุกอย่างจะเบาลง เพราะเมื่อ จิตของเรากำลังพุ่ง ด้วยความ โกรธ เราก็จะรู้จักที่จะสะกดตัวเอง อย่าเพิ่งทำต้องหยุดก่อน" นี่คือผลของการ ฝึกโยคะ ที่ปาริชาติสัมผัสได้ และเธอก็อยากให้คนอื่นๆ ลองฝึกเล่นด้วย

 

เมื่อถามถึงเรื่องการทำบุญ ปาริชาติ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "คนเราจะทำบุญไม่จำเป็นต้องเข้าวัดเสมอไป เราอยู่นอกวัด ก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นครู หรือเป็นวิทยากรที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ก็เป็นการให้อย่างหนึ่ง เพราะเราให้แล้วทุกคนมีความสุข ก็เป็นบุญเหมือนกัน"

 

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาปาริชาติเคยบริจาคเลือดมาตลอดกว่า ๓๐ ครั้งแล้ว แต่ระยะหลังมาเป็นครู สอนโยคะ ทำให้ต้องใช้กำลัง ประกอบกับไม่ค่อยมีเวลาเท่าใดนัก จึงไม่ได้ไปบริจาคเหมือนเช่นเคย และอยากบอกว่า ไม่ว่าจะทำบุญด้วยเงิน หรือทำด้วยอะไรก็แล้วแต่ หากเราทำด้วยใจก็ได้บุญเหมือนกัน 

 

นอกจากเรื่องการทำบุญแล้ว สิ่งหนึ่งที่ปาริชาติปฏิบัติ จนกลายเป็นกิจวัตร ประจำวันไปแล้ว คือ ก่อนนอน ทุกคืนจะสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ เพื่อให้เรา นอนหลับสบาย ปล่อยวางกับบางสิ่งบางอย่าง ที่ทำให้เรา เป็นทุกข์ หรือเวลาช่วงเช้า จะไปฝึกโยคะนอกบ้าน ก็จะไหว้พระพุทธรูปภายในห้องนอน ส่วนพระเครื่อง ไม่ได้แขวนเหมือนกับแม่ ที่มีพระอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้เป็นสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ไม่ได้แขวนพระ เพียงแค่คิดดี ทำดีก็น่าจะพอแล้ว 

 

"วันนี้พบสัจธรรมชีวิตที่ว่า ทุกอย่างคงไม่มีอะไรที่ทำให้เราถาวรหรอก สักวันหนึ่ง ก็ต้องเปลี่ยนไป ในเรื่องของตัวเราเองก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตา หรือคนที่อยู่รอบข้างเรา เมื่อเรา มีชีวิตอยู่ ณ วันนี้ ต้องทำให้ดีที่สุด และทำให้กับคนที่รักเรา อย่างพ่อแม่ เอาเวลาที่จะทำอะไรให้กับท่าน ให้มันมี ค่าที่สุด เวลาผ่านไปไม่มีท่าน เราจะมานั่งเสียใจ สัจธรรมตรงนี้ อะไรที่แน่นอนก็คือความไม่แน่นอน ชีวิตเรา เปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที" น.ส.ปาริชาติ กล่าวทิ้งท้าย

 

"สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ก็คือทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น เวลาคิดก็คิดอย่าง มีสติมากขึ้น พอจะโกรธ ใครทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ลดลงเรื่อยๆ ทุกอย่างจะเบาลง"