ความศรัทธาองค์พระพุทธโสธร ของไฮโซ...ดร.วรพิมพ์สุข ผ่องสมัย

ความศรัทธาองค์พระพุทธโสธร ของไฮโซ...ดร.วรพิมพ์สุข ผ่องสมัย

 

 

 

 

เรื่อง  : สุทธิคุณ    กองทอง   ภาพ :  ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์ 

 

ความศรัทธาองค์พระพุทธโสธร ของไฮโซ...ดร.วรพิมพ์สุข ผ่องสมัย

 

หลวงพ่อโสธรองค์เดิมที่ลอยน้ำมานั้นเป็นพระปางสมาธิขนาดไม่ใหญ่นักบ้างก็ว่าหน้าตักคืบเศษแกะจากไม้ฝีมือหยาบ บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดหน้าตักศอกเศษ ลอยตามลำน้ำบางปะกงมาจากทางตอนทิศเหนือ 



เมื่ออาราธนาขึ้นมายังวัดโสธรและเริ่มมีกิติศัพท์แพร่หลายเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนแล้ว ทั้งพระเณรชาวบ้านก็เริ่มวิตกว่าจะมีผู้มาลักพระพุทธรูปไปจึงสร้างพระจำลองแบบไม้ธรรมดาครอบองค์พระจริงไว้ 



ต่อมาได้มีการทำดังนั้นซ้ำอีกและท้ายที่สุดได้ใช้ปูนพอกทับแน่นหนาจนมีขนาดและรูปทรงดังปรากฏในปัจจุบันความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรเป็นที่เลื่องลือเล่าขานกันมากมายครั้งหนึ่งที่เกิดภาวะฝนแล้ง อย่างรุนแรงขึ้นในแปดริ้ว พืชผลเสียหายสัตว์เลี้ยงล้มตายข้าวยากหมากแพงซ้ำยังเกิดโรคระบาดขึ้นเมื่อมีการบนบานหลวงพ่อ โรคร้ายแรงนั้นก็ยุติลงได้อย่างอัศจรรย์ ไฮโซสาว  ดร.วรพิมพ์สุข ผ่องสมัย ในฐานะนายกสโมสรซอนต้าสากลกรุงเทพฯ ๕ เป็นอีกคนหนึ่งที่ให้ความศรัทธาองค์หลวงพ่อโสธรอย่างมาก 



ไฮโซวรพิมพ์สุขเล่าว่า ประมาณ ๒๐ ปีที่แล้ว ตั้งแต่คลอดลูกชายคนแรกก็ได้ยกให้เป็นลูกหลวงพ่อโสธร พอมีลูกสาวก็จะยกให้เป็นลูกหลวงพ่อโสธร เนื่องจากก่อนหน้านั้นลูกสาวคนนี้จะมีปัญหาต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ตลอดเจ็ดปีแรกต้องเห็นลูกเจ็บป่วยไม่ไหว จึงได้ยกลูกสาวคนนี้ให้กับหลวงพ่อโสธร ทั้งนี้ เป็นเรื่องแปลกอย่างมากเพราะตั้งแต่ยกลูกสาวให้กับท่าน ลูกสาวคนนี้ก็ไม่เคยป่วยอะไรอีกเลยมันจึงเป็นความศรัทธาจนมีคุณค่าทางจิตใจ 

 



สำหรับพระเครื่ององค์พระพุทธโสธร พระสมเด็จนางพญาจิตรลดา พระไพรีพินาศ พระสมเด็จบางขุนพรหม องค์เจ้าแม่กวนอิม แต่ตอนหลังได้เป็นลูกศิษย์ท่านเจ้าคุณธงชัย จึงได้แขวนพระนารายณ์ทรงครุฑ เพราะมีไว้จะสามารถให้ช่วยอะไรให้ทุกอย่าง และมีพระหลวงปู่ทวด รุ่นแรก โดยสามี(พ.ต.อ.สัณหกิจ บำรุงสวัสดิ์) ได้ให้ไว้ป้องกันภัยระหว่างเดินทาง ทุกองค์ที่แขวนล้วนมีคุณค่าทางจิตใจ แต่นอกเหนือจากนี้มีความเชื่อว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด 



ความศรัทธาที่มีอยู่กับตัวเองตรงนี้ได้มาจากปฏิบัติธรรมสวดมนต์ นั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน คนเราเกิดมาไม่ว่าจะปฏิบัติธรรมดีแค่ไหนก็ไม่สามารถหลีกหนี้ในเรื่องของวิบากกรรมไปได้ คนเราทำดีได้ทำชั่วได้ชั่ว เรื่องราวที่ได้เจอมาไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือโชคไม่ดี ล้วนแล้วขึ้นอยู่กับการกระทำของเราแทบทั้งสิ้น ส่งผลให้เชื่อในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ มนุษย์ไม่ว่าจะทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา นั่นก็คือ กรรม 



"ความประมาท ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การกระทำบางอย่างทำให้คนเสียใจ เบียดเบียนคนโดยที่เราไม่ตั้งใจนั่นก็เป็นกรรม เป็นวิบากกรรมที่เราจะต้องเจอ โดยตลอดชีวิตที่ผ่านมาได้ตั้งปณิธานเอาแล้วว่าจะไม่เอาเปรียบคน ทำอะไรให้ใครได้ก็จะทำ มนุษย์เราที่เกิดมาในภพชาติต่างๆ ดีไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับบุญกรรมที่สะสมกันไว้เพื่อมารับในชาติปัจจุบัน แล้วในชาติปัจจุบันไม่สะสมบุญเกิดชาติหน้าชีวิตก็ยิ่งตกต่ำลงไปอีก"นี่เป็นความเชื่อในเรื่องกรรม 

 



เธอกล่าวต่อว่า บุพกรรมของคนมีจริง โลกนี้โลกหน้ามีจริง ภพชาติของคนเราก็มีจริง ฉะนั้น การมีอยู่จริงตรงนี้ผู้ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในศีลจะรู้ดี ที่ผ่านมาชีวิตเกิดวิกฤตถึงขั้นเกือบจะจนมุม แต่เหมือนกับมีคนคอยมาดึงให้ชีวิตพ้นจากชีวิตที่วิกฤตแทบทุกครั้ง และสิ่งที่มาช่วยดึงเราก็เป็นบุญที่เราได้สะสมเอาไว้ ในรูปของการให้ความช่วยเหลือสังคมที่ยากไร้ ส่งเสริมการศึกษาของเยาวชน เป็นต้น ทำให้เราเข้าใจว่าชีวิตได้เดินมาถูกทาง และความที่อยากเข้าใจในพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับพระไตรปิฎก พระสูตรต่างๆ จึงไปเรียนปริญญาเอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) 



วันนี้หากถามว่าชาติหน้าอยากกลับมาเกิดอีกไหมตรงนี้อยากบอกว่าไม่อยากมาเกิดอีกแล้ว แต่มนุษย์เรามีทั้งกรรมเก่ากรรมใหม่ เราเองก็ไม่รู้จะไปพ้นไหม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา เพราะถ้าเราได้ปฏิบัติถึงแล้วอาจไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดก็ได้ แต่ถ้าเราไปไม่ถึงเราก็ต้องเก็บเกี่ยวบุญเอาไว้ภพหน้าของเรา เพราะการศึกษาวันนี้ทำให้รู้ว่าชาติหน้ามีจริง 



"การนิพพานถือเป็นเรื่องยาก เพราะประตูนิพพานเล็กเท่ากับเส้นผมหนึ่งเส้น กว่ามนุษย์เราจะไปถึงนิพพานได้เป็นเรื่องยากมาก สิ่งสำคัญเราต้องไม่ตกอยู่กับบ่วงของกิเลส ที่ผ่านมายังยึดถือคำพูดของ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการเกิดเป็นคนต้องยิ้มได้เมื่อภัยมา ไม่ว่าเราจะเจออะไรแค่ไหนจิตต้องไม่ตกเศร้าเสียใจไปกับมัน แต่เราต้องฮึดที่จะสู้ไม่ว่าจะเจอวิบากกรรมเลวร้ายแค่ไหนเราต้องยิ้มให้กับตัวเอง"ไฮโซสาวกล่าวทิ้งท้าย