บทความข้างล่างนี้เขียนเมื่อครบการกำหนดคำพิพากษาให้คืนสาธารณสมบัติแผ่นดินเมื่อ13ปีที่แล้วที่แล้ว

บทความข้างล่างนี้เขียนเมื่อครบการกำหนดคำพิพากษาให้คืนสาธารณสมบัติแผ่นดินเมื่อ13ปีที่แล้วที่แล้ว

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

บทความข้างล่างนี้เขียนเมื่อครบการกำหนดคำพิพากษาให้คืนสาธารณสมบัติแผ่นดินเมื่อ13ปีที่แล้วที่แล้ว
 
 
วันนี้ (14 ธันวาคม 2566) ครบ 16ปีหลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาคดี ฟ35/2550 ให้คืนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แต่สาธารณสมบัติ ส่วนที่เป็นท่อก๊าซในทะเลก็ยังไม่ได้คืนให้แผ่นดิน
 
 
ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีนายมีชัย ฤชุพันธ์เป็นประธาน วินิจฉัยว่า “จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด หน้า ๘๓ ศาลปกครองสูงสุดมิได้แยกระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติออกเป็นส่วนๆ หรือคำนึงว่าท่อส่งก๊าซธรมชาติและอุปกรณ์ตั้งอยู่บนที่ดินของใคร ทั้งนี้เพราะท่อส่งก๊าซธรรมชาติเป็นสิ่งต้องใช้ทั้งระบบ ไม่สามารถแยกเป็นท่อนๆได้” ส่วนคณะกรรมการผู้ตรวจเงินแผ่นดินที่มี ศ.ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม เป็นประธาน ระบุว่า “ปตท.ยื่นคำร้องรายงานสรุปการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ โดยไม่ปรากฎการแบ่งแยกทรัพย์สินมูลค่า๓๒,๖๑๓,.๔๕ ล้านบาทให้แก่รัฐ ยื่นคำร้องรายงานสรุปการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ โดยไม่ปรากฎการแบ่งแยกทรัพย์สินมูลค่า๓๒,๖๑๓,.๔๕ ล้านบาทให้แก่รัฐ รวมทั้งไม่ได้รายงานทรัพย์สินที่จะแบ่งแยกให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อน ทำให้มีทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินคงเหลือที่ยังไม่ได้แบ่งแยกให้กระทรวงการคลัง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายขั้นต้นไม่น้อยกว่า ๓๒,๖๑๓.๔๕ ล้านบาท”
 
 
 
ข้อมูลใหม่เหล่านี้ มีการตรวจพบและวินิจฉัยใหม่เมื่อปี 2560 คือ 6ปีที่แล้ว ปัญหาคือ แทนที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่1คือคณะรัฐมนตรี และผู้ถูกฟ้องคดีที่2 คือนายกรัฐมนตรี จะทำหนังสือร้องไปยังศาลปกครองสูงสุด โดยฟังคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา และ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่ระบุว่า ปตท.ยังไม่ได้คืนท่อก๊าซในทะเล มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคือไม่น้อยกว่า ๓๒,๖๑๓.๔๕ ล้านบาท กลับทำคำร้องไปถามศาลปกครองสูงสุดว่า ยังมีทรัพย์สินที่ต้องคืนอีกไหม !? ปรากฎว่า ศาลไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา แต่คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ที่ 800/2557 สั่งให้คณะรัฐมนตรีต้องเป็นผู้แบ่งแยกคืนทรัพย์สินให้ครบถ้วนตามคำพิพากษา ฟ35/2550 โดยให้เป็นไปตามมติครม.เมื่อ18 ธันวาคม 2550 คือ “ให้สตง.เป็นผู้ตรวจสอบรับรองความถูกต้องในการแบ่งแยกทรัพย์สิน หากมีข้อโต้แย้งทางกฎหมายเกี่ยวกับการตีความตามคำพิพากษาของศาลฯในการดำเนินการ แบ่งแยกทรัพย์สิน ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้มีข้อยุติต่อไป” แต่สมัยพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ดำเนินการให้เสร็จสิ้น ตั้งแต่ปี 2560
 


 
ดิฉันจึงมีหนังสือเรียนนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะนายกฯ และรมว.คลัง ให้ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 800/2557 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
 
หวังว่านายกฯคนใหม่จากการเลือกตั้ง จะดำเนินการในการแบ่งแยกสาธารณสมบัติคืนให้แผ่นดินตามคำพิพากษา ฟ35/2550 เมื่อ16ปีที่แล้ว
รสนา โตสิตระกูล
14 ธันวาคม 2566