ข้อเสนอต่อกระทรวงพลังงานเพื่อให้ดําเนินการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง

ข้อเสนอต่อกระทรวงพลังงานเพื่อให้ดําเนินการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง

 

  

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

ข้อเสนอต่อกระทรวงพลังงานเพื่อให้ดําเนินการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง โดย สภาองค์กรของผู้บริโภค เครือข่ายสิ่งแวดล้อม เครือข่ายไฟฟ้า ประปา และยา เพื่อชาติและประชาชน สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ 133 องค์กร

 

กิจกรรมเรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาน้ำมันแพงที่ต้นเหตุ ที่หน้ากระทรวงพลังงาน วันที่ 22 ธ.ค 2565 เวลา 10.00น โดย สภาองค์กรของผู้บริโภค เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค เครือข่ายสิ่งแวดล้อม เครือข่ายไฟฟ้า ประปา และยาเพื่อชาติและประชาชน สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ 133 องค์กรทั่วประเทศ
 
 

 
ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ระบุต้นเหตุค่าไฟแพงจากการบริหารผิดพลาด เอื้อทุนใหญ่ ทำให้เอกชนได้สิทธิผลิตไฟ และซื้อไฟจากสปป.ลาว รวมแล้ว 70% เป็นต้นเหตุค่าไฟแพง ที่ไม่อาจแก้ไขแบบปลายเหตุเพียงเอาภาษีมาลดค่าไฟ เนื่องจาก
 
1) ค่าไฟที่ซื้อจากเอกชนมีราคาแพงกว่าที่กฟผ.(การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) ขายส่งให้ กฟน.(การไฟฟ้านครหลวง) และ กฟภ.(การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)และการทำสัญญาซื้อไฟจากเอกชนมีการทำสัญญาประกันกำไรให้เอกชน ในระบบใช้ไม่ใช้ก็ต้องจ่าย(Take or Pay ) ด้วยการประกันค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าเอกชนประมาณ 25 % ในปี 2565 ต้องจ่ายค่าความพร้อมจ่ายประมาณ3หมื่นล้านบาท และค่าซื้อไฟที่แพงกว่าที่กฟผ.ขายให้กฟน.และกฟภ. หน่วยละประมาณ 2.80 บาท แต่ซื้อเอกชนในราคา 3-8 บาท/หน่วย ค่าใช้จ่ายเหล่านั้นรวมแล้วประมาณ 100,000 ล้านบาท เป็นภาระที่ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟแพง
 
2) ก๊าซที่เป็นปิโตรเลียมหลักจากอ่าวไทยและเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟ ถูกกิจการปิโตรเคมีที่เป็นบริษัทลูกของ ปตท. แย่งใช้ในราคาถูก โดยไม่ต้องใช้ราคาเฉลี่ย(Pool Gas)ซึ่งประกอบด้วยก๊าซอ่าวไทย ก๊าซจากพม่า และLNG ราคาแพง แต่กิจการปิโตรเคมีได้ใช้ในราคาในประเทศ ซึ่งถูกกว่าราคาเฉลี่ย ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟมีราคาแพง
 

 
3)ปริมาณไฟสำรองในประเทศสูงกว่า50% ทั้งที่ควรสำรองแค่15% แต่รัฐบาลยังมีการซื้อไฟจาก สปป.ลาว และมีนโยบายซื้อไฟเอกชนอีก ทั้งที่มีไฟล้นเกินระบบ เป็นภาระที่ประชาชนต้องแบกรับ
 
สภาองค์กรของผู้บริโภค เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค เครือข่ายสิ่งแวดล้อม เครือข่ายไฟฟ้า ประปา และยา เพื่อชาติและประชาชน สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงมีข้อเสนอต่อกระทรวงพลังงานเพื่อให้ดําเนินการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ดังนี้
 
1. ขอให้ตรึงค่าFtกับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วนทั้งภาคครัวเรือนภาคธุรกิจและภาคเกษตรกรรม
 
2. ขอให้หยุดการอนุมัติโรงไฟฟ้าเอกชนใหม่ทั้งในประเทศและการนําเข้าจาก สปป.ลาว ซึ่งขณะนี้ ไฟฟ้าล้นระบบ ทําให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของรัฐน้อยกว่าที่รัฐธรรมนูญกําหนด และเป็นสาเหตุ สําคัญที่ทําให้ค่าไฟแพง
 
3. ให้รัฐบริหารจัดการต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติโดยกํากับดูแลให้ปตท.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจและเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ ดําเนินการจัดหาก๊าซธรรมชาติและจําหน่ายให้รัฐวิสาหกิจด้วยกันเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชนโดยรวม
 
4. ทบทวนการทําสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่เอื้อเอกชน ในลักษณะมีค่าความพร้อมจ่าย ภายใต้เงื่อนไข“ไม่ใช้ก็ต้องจ่าย”
 
5. เร่งสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน ด้วยการติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน(โซลาร์รูฟทอป)และใชร้ะบบการคิดค่าไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วย (Net Metering) ในการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากการใช้งานกลับเข้าสู่ระบบ
 

 
ทั้งนี้ ในการแก้ปัญหาระยะยาวให้กระทรวงพลังงานปรับนโยบายด้านกิจการไฟฟ้าให้เป็นไปตาม
บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 หมวดที่่ 5 "หน้าที่ของรัฐ" ตามมาตรา 56
 
ทางเครือข่ายฯจะติดตามขอทราบคำตอบจากรมว.กระทรวงพลังงานหลังปีใหม่ 2566 ต่อไป
 
รสนา โตสิตระกูล
22 ธ.ค 2565