รสนาท้วงการเก็บเงินจากแก๊สโซฮอล์เข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

รสนาท้วงการเก็บเงินจากแก๊สโซฮอล์เข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

รสนาท้วงการเก็บเงินจากแก๊สโซฮอล์เข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแทนที่จะลดราคา เป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมันหรือไม่

 

 

ผู้ค้าน้ำมันประกาศขึ้นน้ำมันอีก30 สต.ในเช้าวันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค)ทั้งที่ช่วงที่ผ่านมาแทนที่จะลดราคาเมื่อตลาดโลกลดราคา กลับมีการ ล้วงเงินเพิ่มจากเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอล์ไปไว้ในกองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 2.80 บาท/ลิตร จากเดือนพ.ย เก็บแค่ 79 สต./ลิตร
 
ระยะเดือนที่ผ่านมา ทั้งผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ และกองทุนน้ำมันร่วมมือกันล้วงเงินจากผู้บริโภคกันอย่างไม่บันยะบันยัง
 
เพราะน้ำมันตลาดโลกราคาลดลงจนเนื้อน้ำมันเบนซิน95 ราคาเหลือเพียง19.32 บาท แต่ราคาขายปลีกหน้าปั๊ม ยังสูงถึง 41.56บาท/ลิตร สูงกว่าต้นทุนเนื้อน้ำมัน ถึงลิตรละ 22.24 บาท !!
 
นอกจากภาษีสรรพสามิต 6.50บาท/ลิตร และภาษีอื่นๆแล้ว มีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจากลิตรละ7.8 บาทในเดือนพ.ย เป็นลิตรละ 9.38 บาท ซึ่งสูงกว่าภาษีสรรพสามิตที่มีกฎหมายกำหนดเพดานสูงสุดไว้ที่7บาท/ลิตร ส่วนกองทุนน้ำมันแม้ไม่มีการกำหนดเพดาน แต่ไม่ควรถือโอกาสเก็บเท่าใดก็ได้ตามใจชอบ ทำให้เป็นภาระเกินสมควรต่อประชาชน
 
การเก็บเงินจากคนใช้น้ำมันเบนซิน95 ที่สูงมากทั้งภาษี และกองทุนน้ำมัน ทำให้ราคาขายปลีกหน้าปั๊มสูงถึง 41.56 บาท/ลิตร เป็นช่องทางในการถ่างราคาของเบนซินกลุ่มแก๊สโซฮอล์ให้มีราคาแพงเกินสมควรไปด้วย
 
เมื่อเนื้อน้ำมันเบนซินเหลือแค่ 19บาทกว่า ราคาขายปลีกในอดีตอยู่ที่ประมาณ 26-27 บาท/ลิตร แต่ขณะนี้ผู้บริหารในกระทรวงพลังงานและผู้ค้าน้ำมันคิดว่าประชาชนเคยชินกับราคาน้ำมัน30กว่าบาท ก็เลยทำทุกวิถีทางจะคงราคาที่เชื่อว่าผู้บริโภครับได้ โดยไม่มีการโวย ดังนั้นเมื่อราคาตลาดโลกลดลง แทนที่จะลดให้ประชาชน ก็จะเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
 
จากวันที่21พ.ย มีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจากกลุ่มแก๊สโซฮอล์ 95,91 แค่ 79 สต/ลิตร พอถึงวันที่29 พ.ย มีการเก็บเพิ่มเป็น 1.40บาท และ 6ธ.ค เพิ่มเป็น 1.60บาท และ 9ธ.ค เพิ่มเป็น 2.10 บาท วันที่13ธ.ค เพิ่มเป็น2.30 บาท และวันนี้ 14 ธ.ค เพิ่มเป็น 2.80บาท และประกาศขึ้นราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ (15ธ.ค)อีก30 สต./ลิตร แทนที่จะลดส่วนที่เก็บเข้ากองทุนฯลงไป มีความเป็นธรรมหรือไม่
 
การอ้างว่ากองทุนฯมีหนี้ ก็เป็นหนี้ของดีเซล และก๊าซหุงต้ม ซึ่งขณะนี้ก็รีดจากคนใช้ดีเซลถึงลิตรละ 6.03 บาท จึงไม่ควรรีดเงินจากผู้ใช้เบนซินเกินสมควรเช่นนี้ เพราะเงินจากคนใช้เบนซินไปชดเชยให้ดีเซลมาตลอด ทั้งที่เป็นการชดเชยข้ามผลิตภัณฑ์ โดยคนใช้น้ำมันเบนซินไม่เคยได้รับการชดเชยราคาจากเงินของตัวเองเลยเมื่อราคาตลาดโลกสูงขึ้น
 
 
กองทุนน้ำมันกำลังทำผิดกฎหมายหรือไม่ การนำเงินกองทุนน้ำมันไปชดเชยน้ำมันข้ามผลิตภัณฑ์ ด้วยการเอาไปชดเชยน้ำมันชีวภาพราคาแพงที่นำมาผสมในน้ำมันเบนซินและดีเซล ซึ่งกฎหมายให้ใช้เป็นการชั่วคราว และต้องลดลงในแต่ละปี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ลดลง มีแต่เพิ่มมากขึ้น กองทุนน้ำมันจึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นกองทุนเพื่อประกันกำไรให้กลุ่มทุนพลังงานจากนโยบายรัฐ เฉกเช่นเดียวกับกรณีค่าไฟแพงเพราะรัฐบาลเอื้อแต่กลุ่มทุนพลังงาน ใช่หรือไม่
 
กระบวนการล้วงกระเป๋าประชาชนโดยไม่คำนึงถึงภาระเกินสมควรของประชาชนนั้น มีความเป็นธรรมเพียงใด เป็นการดำเนินงานอย่างไร้ซึ่งกติกาหรือไม่
 
ขอให้กระทรวงพลังงานออกมาแถลงให้ชัดเจนว่ากติกาการขึ้นหรือลดราคาน้ำมันที่บอกว่าเป็นกลไกตลาดเสรีของพวกท่าน มันคืออะไรกันแน่
 
กองทุนน้ำมันควรมีสิทธิตามกฎหมายที่จะเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราสูงสุดเท่าไหร่ หรือเก็บตามใจชอบ ?!
ค่าการตลาดที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ ขอให้ชี้แจงออกมาให้ประชาชนรับทราบอย่างชัดเจน
 
อย่าเห็นประชาชนเป็นหมูในอวย หรือไก่ในเล้า คิดจะแล่เนื้อเถือหนังอย่างไรก็ได้
 
ดิฉันขอเรียกร้องบรรดาผู้แทนราษฎรในรัฐสภา โปรดออกมาช่วยตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อประชาชนบ้าง อย่าให้พฤติกรรม ด้านได้ อายอด เป็นนโยบายในการบริหารพลังงานในประเทศนี้เลย
 
รสนา โตสิตระกูล
14 ธันวาคม 2565