“การรวมศูนย์อำนาจของคสช.ช่วยปฏิรูประบบราชการและแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้จริงหรือไม่”

“การรวมศูนย์อำนาจของคสช.ช่วยปฏิรูประบบราชการและแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้จริงหรือไม่”

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

“การรวมศูนย์อำนาจของคสช.ช่วยปฏิรูประบบราชการและแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้จริงหรือไม่”

 


ระบบประชาธิปไตยรวมศูนย์อำนาจทางการเมืองแบบพรรคคอมมูนิสต์จีนไม่ล่มสลายเหมือนพรรคคอมมูนิสต์ที่เคยปกครองประเทศในยุโรปตะวันออกรวมทั้งรัสเซีย น่าจะเป็นเพราะระบบพรรคคอมมูนิสต์ของจีนมีระบบการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันที่เข้มแข็ง จริงจัง และเข้มข้นในทุกระดับตั้งแต่ในระดับพรรคคอมมูนิสต์ ในระดับคณะโปลิบุโร (โครงสร้างการบริหารที่ควบคุมการเมืองระดับบน) และในระบบราชการตั้งแต่ระดับชาติ ลงไปถึงระดับท้องถิ่นดังที่เราได้รับข่าวการกวาดล้าง และการจับกุมผู้บริหารระดับสูงอย่างไม่ลูบหน้าปะจมูกอย่างต่อเนื่อง ทั้งมีการคัดสรรคนดีมีความสามารถมาบริหารในทุกระดับ ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก หรือเอาแต่พวกพ้องน้องพี่เข้าสู่อำนาจทั้งบริหาร และนิติบัญญัติ จึงทำให้ประเทศจีน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นยักษ์หลับแห่งเอเชีย มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนทัดเทียมกับชาติมหาอำนาจในตะวันตก แม้จะถูกตั้งข้อรังเกียจในด้านการเมืองการปกครองที่รวมศูนย์อำนาจก็ตาม

ข่าวการตามจับนายอำเภอระดับท้องถิ่นที่รับสินบนและหนีไปอยู่ต่างประเทศถึง13ปี ก็ยังถูกทางการจีนประสานความร่วมมือกับต่างประเทศติดตามจับตัวกลับมารับโทษในจีนได้ เป็นตัวอย่างสำคัญทั้งการป้องปราม และปราบปรามการทุจริตของทางการจีน

ระบอบการเมือง(ไม่นับระบบเศรษฐกิจ)ของประเทศไทยในยุคคสช.ก็คล้ายกับระบบประชาธิปไตยรวมศูนย์อำนาจการเมืองแบบพรรคคอมมูนิสต์จีน และระบบราชการไทยก็คล้ายกับโปลิบุโรของจีน แม้ว่าคสช.จะมีการจัดการกับกรณีทุจริตคอร์รัปชันอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็เป็นการจัดการคดีทุจริตของฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมากกว่า โดยประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าถ้าเป็นพวกพ้องเดียวกันก็มักไม่มีการตรวจสอบ ใช่หรือไม่ ?

หรือหากมีการตรวจสอบก็มักไม่เอาจริงเอาจัง เข้าตำราที่เขาเรียกกันว่า”ลูบหน้าปะจมูก” ใครจะกล้าตัดจมูกตัวเอง ใช่หรือไม่?

คสช.ปกครองมา4ปี ปรากฎการณ์ที่เห็นชัดเจนคือกลุ่มเศรษฐกิจไหนที่โตขึ้นผิดหูผิดตา และการทุจริตคอร์รัปชันก็หนาแน่นไม่ได้น้อยไปกว่ายุคนักการเมืองจากการเลือกตั้งปกครองประเทศ ใช่หรือไม่ ?

หากมีการสืบทอดอำนาจตามยุทธศาสตร์20ปีของคสช.ภายใต้เสื้อคลุมของนักเลือกตั้งโดยไม่มีการปฏิรูประบบราชการ และไม่มีจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจังและอย่างเป็นระบบแล้ว อนาคตประเทศไทยจะมีสภาพก้าวกระโดดไกล หรือถอยหลังสุดกู่ จากจุดที่เป็นอยู่ แค่ไหน และอย่างไร!?!

โครงการเมกกะโปรเจคต่างๆตามยุทธศาสตร์ 20ปี อาจจะกลายเป็นโครงการที่รวมศูนย์การทุจริตคอร์รัปชันอย่างมโหฬารโดยไม่มีการการตรวจสอบถ่วงดุลก็เป็นได้ โดยเฉพาะเมื่อองค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญทั้งหลายล้วนถูกเลือกมาภายใต้เครือข่ายในแวดวงเดียวกัน หรือซื้อใจด้วยการขึ้นเงินเดือน และจ่ายเงินเดือนย้อนหลัง แถมเพิ่มเบี้ยประชุมให้กันอย่างเต็มพิกัด ใช่หรือไม่?

รสนา โตสิตระกูล
1 ธ.ค 2561

‭https://www.facebook.com/178839832836368/posts/284504612269889/‬