สจล. ส่งมอบ “นวัตกรรมไม้วัดไฟรั่ว” ช่วยทีมภารกิจเสาะหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

สจล. ส่งมอบ “นวัตกรรมไม้วัดไฟรั่ว” ช่วยทีมภารกิจเสาะหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

 

 

 

 

 

 

 

 

สจล. ส่งมอบ “นวัตกรรมไม้วัดไฟรั่ว” ช่วยทีมภารกิจเสาะหา 13 ชีวิตในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน

 

 

กรุงเทพฯ 29 มิถุนายน 2561 – จากกรณีไฟฟ้าเครื่องสูบน้ำรั่ว ช็อตเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการช่วยเหลือทีม “หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย” ที่ติดอยู่ ณ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ. เชียงราย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ส่งมอบนวัตกรรม “ไม้ตรวจวัดกระแสไฟฟ้ารั่ว” จำนวน 50 ด้าม เพื่อช่วยตรวจสอบการเกิดไฟฟ้ารั่ว จากมอเตอร์ไฟฟ้า และสายส่งไฟฟ้าในการปฏิบัติภารกิจค้นหาต่างๆ และอำนวยความสะดวกทีมปฏิบัติการ และผู้เกี่ยวข้อง ให้สามารถดำเนินการค้นหาได้อย่างปลอดภัย


อาจารย์ ดุสิต สุขสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน จากกรณีไฟฟ้าเครื่องสูบน้ำรั่ว ช็อตเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการช่วยเหลือทีม “หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย” ที่ติดอยู่ ณ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เชียงราย สจล. เตรียมส่งนวัตกรรม “ไม้ตรวจวัดกระแสไฟฟ้ารั่ว” ไม้ตรวจกระแสไฟฟ้ารั่วบนผิวน้ำความแม่นยำสูงฉบับพกพา จำนวน 50 ด้าม ที่มีตัวแสดงผลเป็นหลอดไฟ LED และลำโพง Buzzer ส่งสัญญาณไฟ และเสียงเตือนหากมีกระแสไฟรั่ว โดยอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถตรวจวัดกระแสไฟฟ้ารั่วได้ ตั้งแต่ระดับที่มนุษย์ยังไม่สามารถรู้สึกได้ หรือประมาณ 2 เมตรล่วงหน้า ก่อนจุดที่จะมีกระแสไฟฟ้ารั่วซึ่งเป็นอันตรายแก่ร่างกาย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกทีมปฏิบัติการ และผู้เกี่ยวข้อง ให้สามารถดำเนินการค้นหาได้อย่างปลอดภัย


อย่างไรก็ดี บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังสูง และต้องใช้เครื่องสูบน้ำ ตลอดจนอุปกรณ์กู้ภัยอื่นๆ ที่ต้องอาศัยไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง จึงมีโอกาสเสี่ยงการเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้ตลอดเวลา สจล. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นวัตกรรมดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อภารกิจค้นหา และขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวและทีมงานทุกท่าน อ.ดุสิต กล่าวสรุป


ทั้งนี้ ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา สจล. ขอส่งกำลังใจ ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างราบรื่น และช่วยเหลือเยาวชนทั้งหมด 13 คน ให้สามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย