เอสซีจี ธุรกิจยั่งยืน อันดับ 1 ของโลก จาก DJSI

เอสซีจี ธุรกิจยั่งยืน อันดับ 1 ของโลก จาก DJSI

 

 

 

เอสซีจี ธุรกิจยั่งยืน อันดับ ของโลก จาก DJSI

 
 
 

            เอสซีจีที่ ของโลกด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนจาก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) และได้คะแนนสูงสุดด้านสิ่งแวดล้อม เป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ ESG 4 Plus มุ่งเดินหน้าแก้วิกฤตภาวะโลกรวนและลดสังคมเหลื่อมล้ำ  ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593  พัฒนาทักษะสร้างอาชีพ 50,000 คน พร้อมคิดค้นนวัตกรรมโซลูชัน เทคโนโลยีดิจิทัล ให้ลูกค้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นถัดไป

 



 

            วันที่ 23 กันยายน 2565  เอสซีจีได้รับการจัดอันดับเป็นที่  ของโลกด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนจากดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices – DJSI) ในกลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) และได้คะแนนสูงสุดด้านสิ่งแวดล้อม  ทั้งยังเป็นองค์กรแรกในอาเซียนที่เป็นสมาชิก DJSI ตั้งแต่ปี 2547   ซึ่งมาจากความมุ่งมั่น ดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus  “มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ” โดยยึดหลักเชื่อมั่นและโปร่งใส  ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593  พร้อมวิจัย พัฒนาโซลูชัน เทคโนโลยีดิจิทัล ให้ตรงใจผู้บริโภค ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ เช่น เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด และพลังงานทดแทนอย่างพลังงานชีวมวล (Biomassจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและเชื้อเพลิงจากขยะ RDF  พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energyอย่าง “SCG Solar Roof ระบบ Hybrid” ระบบหลังคาโซลาร์ เทคโนโลยีไฮบริด มีแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้ไฟฟ้าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน  นวัตกรรมพลาสติก SCGC GREEN POLYMER   บรรจุภัณฑ์กระดาษรีไซเคิลช่วยลดใช้ทรัพยากร ลดโลกร้อน  CPAC 3D Printing Solution เทคโนโลยีการพิมพ์ขึ้นรูปแบบมิติ ที่ออกแบบได้หลากหลาย รวดเร็วและลดวัสดุเหลือทิ้ง  





 

นอกจากนี้ เอสซีจียังพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ฉลาก SCG Green Choice ที่ช่วยประหยัดพลังงานและส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี นับเป็นบริษัทเอกชนรายแรกในไทยที่ออกฉลากเพื่อรับรองสินค้า บริการเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม   ขณะเดียวกันยังมุ่งลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชนและ SMEs  50,000 คน เช่น อาชีพช่างก่อสร้าง  พนักงานขับรถบรรทุก  การแปรรูปและการขายสินค้าทางออนไลน์  ทั้งยังร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งไทย อาเซียนและโลกให้ดำเนินงานด้วย ESG เพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นถัดไป