เป็นพนักงาน...อย่างมืออาชีพ

Strict Standards: Only variables should be assigned by reference in /home/admin/web/changeintomag.com/public_html/plugins/content/fcomment/fcomment.php on line 103

เป็นพนักงาน...อย่างมืออาชีพ

หลายท่านมีอาชีพเป็นลูกจ้าง ถูกว่าจ้างให้ทำงานเพื่อให้องค์กร ได้เป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ แต่ก็ทำงานเปรียบเสมือนเป็นเจ้าของเลยทีเดียว การเป็นพนักงานอันที่จริงถือเป็นเกียรติที่สำคัญอย่างหนึ่งนะครับ เพราะเราได้ทำงานกับบริษัทไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ การที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าไปทำงานก็ถือว่าโชคดีแล้ว


มีมุมบวกเกี่ยวกับการทำงานมากมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือหลายท่านยังไม่มีความสุขกับการทำงาน มีความรู้สึกถูกว่าจ้างให้ทำงานมากกว่า ถูกว่าจ้างให้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ไม่เกิดความภูมิใจในงานที่ทำ ทำให้ไม่อยากทุ่มเท เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อาจจะไม่มีความก้าวหน้าในการงานแล้วความรู้สึกก็จะวนกลับไปเป็นเบื่อและไม่มีความสุขในการทำงาน


ความรู้สึกที่หดหู่ เบื่อ ไม่มีเพื่อน หมดกำลังใจทำงาน ทุกอย่างแก้ไขได้ เพียงการปรับมุมคิดให้มองมุมบวกในชีวิตมากขึ้น ค่อย ๆ เริ่มทำสิ่งที่ทำให้มีความสุข และมองเหตุที่เคยก่อให้เกิดทุกข์ให้เป็นเรื่องเบา ๆ ไป ทุกอย่างทำได้ด้วยการ ‘เปลี่ยนมุมคิด’ เท่านั้นครับ
การทำงานอย่างมีความสุขเป็นเรื่องที่พูดแล้วฟังเพราะ พูดได้ง่าย พูดได้ดี ... แต่ทำยากเป็นบ้าเลย ทุกท่านคงมีอาการแบบเดียวกันในการทำงาน คือเกลียดวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ ถ้าเป็นการทำงานวันจันทร์ถึงศุกร์ ก็จะไม่ค่อยชอบเย็นวันอาทิตย์เลย เพราะรู้สึกว่ากำลังพักสบาย ๆ แต่พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานอีกแล้ว อาการเบื่อเย็นวันอาทิตย์ (หรือวันหยุดวันสุดท้ายก่อนทำงาน) เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็เป็นกัน อาการอย่างนี้แม้จะเป็นกันทุกคนก็คงไม่แปลก แต่ขึ้นกับการตอบสนองของแต่ละคน บางคนแค่เบื่อแต่ก็ยังไปทำงาน บางคนเบื่อจนแทบจะไม่อยากไปทำงาน แต่บางครั้งความเบื่อมันอาจจะหนักจนกลายเป็นป่วยจริง ๆ ไปเลย

 

Attitudes are boss!


หลายคนคงรู้สึกอิจฉานิด ๆ กับคนที่มีความสุขกับการทำงาน คนที่สามารถยิ้มแย้มมีความสุข ดูปลอดจากปัญหาในการทำงาน จะทำอะไรก็ได้รับการสนับสนุนจากคนอื่น ๆ พอเอามาเปรียบเทียบกันกับตัวเองแล้วทำไมปัญหาของตัวท่านเองจึงเยอะกว่า เจ้านายของท่านก็งงๆ แผนกอื่นใกล้เคียงก็เรื่องมากไม่ค่อยให้ช่วยเหลือ ทำงานไปก็มีแต่ปัญหา การรู้สึกเช่นนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาอีกเช่นกัน คนเราทุกคนย่อมเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบกับ คนอื่นใกล้ตัวหรือคนอื่นที่อยู่ในบริษัทเดียวกัน บางครั้งรู้สึกว่าตัวเองเจอเรื่องดีกว่าก็พอใจ แต่บางครั้งรู้สึกว่าเรื่องที่เจอมันแย่กว่าเรื่องคนอื่นก็จะเกิดอาการเสียความรู้สึกแล้วก็พาลทำงานไม่มีความสุขไปด้วย


ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเกิดจากทัศนคติของท่านเองทั้งนั้น ความทุกข์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ท่านเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ เกิดจากการที่คิดไปก่อนที่จะมีเรื่องราวเกิดขึ้น (mind talk) และมักจะคิดไปเองว่าคนอื่นไม่มีปัญหา อันที่จริงทุกงานที่ทำล้วนมีความสนุกและความเซ็งผสมปนเปกันไปทั้งนั้น ช่วงเวลาที่มีความสุขเรื่องราวรอบข้างก็จะดูดีไปหมดไม่ได้รับรู้ว่าเรื่องราวเกิดอะไรขึ้น แต่พอมีเรื่องทุกข์ร้อนเกิดขึ้นมา (ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจากงานที่ทำนี่แหละ) ก็จะเริ่มสนใจอะไรที่ใกล้ตัวมากเกินไป เรื่องอะไร ๆ ก็ทำให้หงุดหงิดได้ทั้งนั้น เรื่องเดียวกันต่างเวลาก็อาจจะให้ความรู้สึกที่ต่างกัน เช่นเครื่องทำกาแฟเสีย ชงกาแฟไม่ได้ ถ้าเป็นช่วงอารมณ์ธรรมดา ก็คงจะแจ้งแม่บ้านให้เรียกช่างมาจัดการ แต่ถ้าวันนั้นกำลังเครียดอยู่ๆ เพราะโดนเจ้านายตามงาน ท่านก็อาจจะรู้สึกโกรธเรื่องเครื่องชงกาแฟมากเกิน พาลไปว่าแผนกแม่บ้านไม่รับผิดชอบไม่ดูแลเครื่องให้ดี ทำให้ต้องพลาดกาแฟแก้วสำคัญไปในเช้านั้น


ความสุข ความสนุก อาการหงุดหงิด ทุกอย่างอยู่ที่ใจของท่านมากกว่าสถานการณ์ ถ้าใจคิดดี ถ้าทัศนคติต่อสิ่งรอบตัวดี และถ้าเลิกเปรียบเทียบคนอื่นให้ใจหดหู่ เรื่องราวก็จะไม่มีทางเลวร้ายไปเลย


บทความ ‘เปลี่ยนมุมคิด สกิดมุมบวก’ จะบอกเรื่องราวเดียวกันของคนทำงานที่เจอะเจอทุกวัน ในมุมมองที่ต่างกันไป ในมุมที่เป็นการมองมุมบวกมากขึ้น จะแนะนำการ ‘หยุดคิด’ เรื่องที่ไม่น่าคิด และ ‘เริ่มคิด’ เรื่องทางบวกเพื่อที่จะปรับอารมณ์ให้คงที่และไม่ต้องเป็นทาสของความโกรธอีกต่อไป


และที่สำคัญคือแง่คิดที่บอกถึงเรื่องราวดี ๆ จะเป็นกำลังใจให้ทุกท่านรู้ว่าชีวิตของคนเราไม่เคยมีใครที่จะไม่เจอเรื่องร้าย เรื่องที่ทำให้หงุดหงิดกัน แต่เรื่องเหล่านั้นจะทำอะไรกับท่านไม่ได้เลยถ้าท่านรู้จักปรับจิตใจให้คิดบวกต่อสิ่งที่เจอ เจอกันครั้งหน้าครับ.....
อยากฝากไว้ว่า ‘ใจบวกคือใจเข้มแข็ง’ ... ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว

 

เรื่อง ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย