“คิง” ผู้นำตลาดน้ำมันรำข้าวไทย เปิดแคมเปญ “รู้จริง เลือกคิง”
“คิง” ผู้นำตลาดน้ำมันรำข้าวไทย เปิดแคมเปญ “รู้จริง เลือกคิง”
เผยความจริงเรื่องคุณค่าน้ำมันรำข้าวสู่ผู้บริโภค
น้ำมันรำข้าวคิง เปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดใหม่“รู้จริง เลือกคิง” โดยมี โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล เป็นพรีเซ็นเตอร์นำเสนอเรื่องราวความจริงของน้ำมันรำข้าวคิงถึงผู้บริโภค ผ่านสื่อหลากหลายชนิด และเน้นสื่อออนไลน์ในรูปแบบซีรีส์คลิปโดยมีอีก6คนดังในหลายสาขาอาชีพที่ล้วนเป็นผู้เลือกใช้น้ำมันรำข้าวคิงจริงๆมาร่วมแชร์ประสบการณ์จริงของการใช้น้ำมันรำข้าวคิงในแง่มุมต่างๆ
นายประวิทย์ สันติวัฒนา กรรมการบริหารกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง (King Rice Oil Group) เปิดเผยถึงที่มาในการสร้างแคมเปญงานสื่อสารการตลาดใหม่ครั้งนี้ว่า “ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความตื่นตัวในเรื่องการดูแลสุขภาพ ทำให้ตลาดน้ำมันพืชกลุ่มพรีเมี่ยมหรือน้ำมันประกอบอาหารในระดับราคาลิตรละ 100 บาทขึ้นไป มีอัตราการเติบโตและการแข่งขันสูงขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าโซเชียลมีเดีย เป็นหนึ่งในช่องทางที่ถูกใช้ในการสื่อสารกล่าวอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งบางเรื่องก็กล่าวอ้างเกินจริงหรือเลื่อนลอยเพราะไม่มีข้อมูลหรืองานวิจัยมาสนับสนุนการกล่าวอ้างนั้นๆ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและเข้าใจผิด ที่หนักสุดก็จะเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงจนทำให้ผู้บริโภคเกิดการตื่นตระหนกเช่นกรณีที่มีการบิดเบือนว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเชื่อมโยงเข้ากับอันตรายจากกรดไขมันทรานส์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดและอาจนำไปสู่การเลือกบริโภคอย่างผิดๆ ที่อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ”
นายประวิทย์ กล่าวต่อไปว่า “ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นผู้บุกเบิกและดำเนินธุรกิจน้ำมันรำข้าวมานานหลายสิบปี และมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวคิง ว่าเป็นหนึ่งในน้ำมันที่มีคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง เราจึงต้องการนำเสนอให้ผู้บริโภคได้ทราบถึงคุณค่าของน้ำมันรำข้าวคิง ชนิดโอรีซานอล 6,000 พีพีเอ็ม (King Rice Bran Oil – Oryzanol 6,000 ppm)พร้อมกระตุ้นให้ผู้บริโภคเลือกพิจารณาแต่ข้อมูลที่พิสูจน์ได้จริง สามารถตรวจสอบด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ และได้รับการยืนยันจากผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ”
ในด้านการตลาด นายประวิทย์ ได้กล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคิงในการขยายตลาดน้ำมันรำข้าวพรีเมี่ยมเพราะผู้บริโภคให้ความสนใจในเรื่องน้ำมันเพื่อสุขภาพมากขึ้นดังนั้น เราสามารถเน้นผลิตภัณฑ์แบรนด์หลักของเรา คือ น้ำมันรำข้าวคิง ชนิดโอรีซานอล 6,000 พีพีเอ็ม (King Rice Bran Oil – Oryzanol 6,000 ppm) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นแตกต่างจากน้ำมันพรีเมี่ยมชนิดอื่นๆอย่างชัดเจน ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงที่กว้างขึ้น”
น้ำมันรำข้าวคิง ผลิตจากรำข้าวที่อุดมด้วยสารธรรมชาติอันมีคุณประโยชน์สูง อย่างโอรีซานอล ไฟโต- สเตอรอล และวิตามินอีซึ่งล้วนมีผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศสนับสนุนว่าสารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพอย่างไร นอกจากนั้น น้ำมันรำข้าวคิง ยังมีคุณสมบัติที่ดีอีกมากมาย เช่น มีสัดส่วนกรดไขมันที่เหมาะสมต่อการบริโภค ไม่มีกลิ่นและมีรสชาติเป็นกลาง มีจุดเกิดควันสูง (High Smoke Point)หมายถึงทนความร้อนได้ดี จึงใช้ประกอบอาหารได้ทุกเมนู ไม่ว่าจะใช้ทอด ผัด หรือ ทำน้ำสลัด ซึ่งคุณสมบัติเด่นทั้งหมดนี้ มีข้อมูลและผลวิเคราะห์สนับสนุนอย่างชัดเจนด้วยเช่นกันจึงนับได้ว่าน้ำมันรำข้าวคิงเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงเพราะดีพร้อมทั้งคุณค่าโภชนาการและคุณสมบัติเด่นนานับประการ
ผู้บริหารกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง กล่าวยืนยันว่า “เรามั่นใจว่าเราเป็นตัวจริงในเรื่องน้ำมันรำข้าว เพราะเราทำน้ำมันรำข้าวอย่างเดียวมาตลอดหลายสิบปี เรามีโรงงานที่ใช้ระบบการผลิตที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกมีห้องแล็ประดับมาตรฐานสากลที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือวิเคราะห์วิจัยทางวิทยาศาสตร์อันทันสมัยทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพของน้ำมันรำข้าวคิงให้ตรงตามที่เราบอกได้อย่างมั่นใจ”
แคมเปญ “รู้จริง เลือกคิง” มาจากเรื่องจริง ความจริงของผลิตภัณฑ์ที่จะถูกนำเสนอผ่าน “ผู้รู้จริง” อันหมายถึง ผู้ที่รู้ความจริงของน้ำมันรำข้าวคิง และมีประสบการณ์ในการใช้น้ำมันรำข้าวคิงจริงๆโดยเลือก โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุลเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะโอปอล์เป็นนักแสดงและพิธีกรมืออาชีพมีบุคลิกมั่นใจ ทันสมัย อีกทั้งยังเป็นผู้ใฝ่รู้ที่จะศึกษาค้นคว้าจนรู้จริงในทุกเรื่องที่จะทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ของงานสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งบุคลิกลักษณะเช่นนี้ บ่งบอกถึงความเป็น “ตัวจริง” เช่นเดียวกับ “น้ำมันรำข้าวคิง” ที่ผลิตโดยผู้รู้จริงและเชี่ยวชาญ ที่สำคัญ โอปอล์ได้ศึกษาข้อมูลน้ำมันรำข้าวคิงมาอย่างละเอียด และเลือกใช้น้ำมันรำข้าวคิง ประกอบอาหารให้ครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผู้ถ่ายทอดความจริงและเรื่องราวดีๆ ของน้ำมันรำข้าวคิงให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเกิดความมั่นใจในทุกความจริง
ผู้บริหารกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิงกล่าวสรุปปิดท้ายว่า “แคมเปญรู้จริง เลือกคิง จะมีการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์ แต่ไฮไลท์จะอยู่ที่คลิปทั้ง 7 ที่ดูสนุกและได้สาระดีๆของน้ำมันรำข้าวคิงควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ความจริงของน้ำมันรำข้าวคิงเช่นเดียวกับผู้รู้จริงของคิงทุกคน โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้บริโภคจะเป็นอีกหนึ่ง ‘ผู้รู้จริง ที่เลือกใช้น้ำมันรำข้าวคิง’และร่วมแชร์เรื่องราวดีๆที่มีประโยชน์เหล่านี้ไปสู่คนรอบข้าง”
###
ซีรีส์คลิป จาก 7 ผู้รู้จริงของคิง
คลิปที่ 1 “ตัวจริง”- คุณโอปอล์ - ปาณิสรา อารยะสกุล นักแสดงและพิธีกรมืออาชีพ ผู้มีบุคลิกมั่นใจ ทันสมัยและเป็นผู้ที่ศึกษาค้นคว้าจนรู้จริงก่อนลงมือทำในทุกเรื่องเพื่อให้งานทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ที่สุดบ่งบอกถึงความเป็น“ตัวจริง” เช่นเดียวกับ “น้ำมันรำข้าวคิง” น้ำมันเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
คลิปที่ 2“อยากรู้จริงต้องฟังใคร” - ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นอนุกรรมการและเลขานุการโครงการอาหารไทยหัวใจดี จัดโดยมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลท่านจะมาช่วยแนะนำวิธีเลือกน้ำมันเพื่อสุขภาพและยืนยันถึงคุณค่าของสารธรรมชาติที่มีในน้ำมันรำข้าว
คลิปที่ 3 “ต้องใช้จริง ถึงจะรู้จริง” - คุณพล ตัณฑเสถียร นักแสดงผู้ชื่นชอบการทำอาหาร เรียนรู้ฝึกฝนจนเป็นเชฟผู้มีชื่อเสียง และเจ้าของร้านอาหารสุดฮิป Wicked และ The Summer House Project เป็นผู้รู้จริงที่จะมาบอกถึงคุณประโยชน์และคุณสมบัติเด่นของน้ำมันรำข้าวคิงที่เป็นเคล็ดลับในการทำอาหาร
คลิปที่ 4 “เรื่องลูก ถ้ารู้จริงก็หายห่วง” - คุณปุ้ม - เปรมสุดา สันติวัฒนา ผู้ดำเนินรายการฝน ฟ้า อากาศ และผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 คุณแม่มือใหม่จะมาแชร์ประสบการณ์ในการเลือกสรรสิ่ง ที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย รวมถึงการใช้น้ำมันรำข้าวคิงเพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการให้กับอาหารของลูก
คลิปที่ 5 “ทำได้ทุกสิ่ง เมื่อรู้จริงและใส่ใจ” - คุณนุช - นุชนารถ รัตนเวโรจน์ เจ้าของและผู้ดำเนินรายการ LighthouseFamily สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ผู้รู้จริงในการบาลานซ์ชีวิตทุกๆ ด้านโดยมีน้ำมันรำข้าวคิงเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของครอบครัว
ที่ 6 “ยิ่งใช้ ยิ่งรู้ว่าดี” - คุณอ้อ - ญาณภา เข็มทอง เจ้าของเพจ กินข้าวกัน by แม่อ้อ ที่ทำสถิติมีผู้ติด ตามนับล้านภายในเวลาเพียง 5 เดือน จะเล่าถึงจุดเริ่มที่ใช้น้ำมันรำข้าวคิงและจุดเด่นที่ทำให้เธอติดใจ
คลิปที่ 7 “เช็คให้ชัวร์ ก่อนแชร์” - คุณแดนนี่-พิชาพัฒน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้ประกาศข่าวช่อง One (ตื่นแต่เช้าช่วง World News/ข่าวเที่ยงรายวัน) จะมาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบความจริง ของน้ำมัน รำข้าวคิง และรายงานให้ผู้ชมได้รับทราบ
###
น้ำมันรำข้าวคิงดีจริง ครบ 10ประการ
น้ำมันรำข้าวคิง ชนิดโอรีซานอล 6,000 พีพีเอ็ม(King Rice Bran Oil – Oryzanol6,000 ppm) ให้คุณค่าและคุณประโยชน์ ดังนี้
1. มีโอรีซานอลมากกว่า6,000 ppm
โอรีซานอลเป็นสารธรรมชาติ มีที่มาจากคำว่า โอรีซา ซาทิวา (Oryza Sativa) ซึ่งแปลว่าข้าว เพราะ โอรีซานอลพบมากในผิวของเมล็ดข้าวกล้อง หรือที่เรียกว่ารำข้าวนั่นเอง จึงพบโอรีซานอลในน้ำมัน รำข้าวเท่านั้น ไม่พบในน้ำมันประกอบอาหารชนิดอื่น โอรีซานอลมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า และจากการวิจัยพบว่า โอรีซานอลยังสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลในตับ นอกจากนั้นยังช่วยปรับสมดุลของระบบฮอร์โมนในสตรีวัยทองลดอาการร้อนวูบวาบ (Hot Flashes) อีกด้วย
2. มีไฟโตสเตอรอลมากกว่า 16,000 ppm
ไฟโตสเตอรอลเป็นสารธรรมชาติที่พบเฉพาะในพืช มีลักษณะโครงสร้างทางเคมีใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล จึงทำให้ไฟโตสเตอรอลช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ โดยเมื่อเข้าสู่ร่างกาย ไฟโตสเตอรอลจะไปแย่งพื้นที่การเกาะตัวของคอเลสเตอรอลในไมเซลล์ (Micelle) ของลำไส้เล็ก จึงทำให้ร่างกายดูดซึมคอเลสเตอรอลได้น้อยลงนั่นเอง มีงานวิจัยกล่าวถึงประโยชน์ของไฟโต – สเตอรอล เกี่ยวกับการนำไปใช้บำบัดผู้ป่วยที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูง ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลรวม และคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ในร่างกายลดลง โดยไม่มีผลกระทบต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ดี(HDL-C) ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์เนื้องอกและเซลล์มะเร็ง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าไฟโตสเตอรอลมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดปฎิกิริยา ออกซิเดชั่น (Antioxidant) ของน้ำมันเมื่อมีการให้ความร้อนได้ เหมือนกับโอรีซานอลและวิตามินอีด้วย
3. มีวิตามินอีถึง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มโทโคฟีรอลและกลุ่มโทโคไตรอีนอล
ปกติในน้ำมันประกอบอาหารทั่วไปจะมีกลุ่มโทโคฟีรอลเท่านั้น ส่วนกลุ่มโทโคไตรอีนอลจะมีเฉพาะในน้ำมันประกอบอาหารบางชนิดเท่านั้น โดยกลุ่มโทโคไตรอีนอลมีคุณสมบัติในการช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่ากลุ่มโทโคฟีรอล และยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย ซึ่งในน้ำมันรำข้าวคิงมีปริมาณกลุ่มโทโคฟีรอล 186 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และมีกลุ่มโทโคไตรอีนอลสูงถึง 416 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมซึ่งนับว่ามีปริมาณวิตามินอีรวมสูง
4. มีสัดส่วนของกรดไขมันที่เหมาะสมต่อการบริโภค
น้ำมันรำข้าวคิงมีสัดส่วนของกรดไขมันที่ผ่านเกณฑ์การตรวจวิเคราะห์ของโครงการอาหารไทยหัวใจดีซึ่งจัดโดยมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์“อาหารรักษ์หัวใจ”โดยมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว (SFA) ต่อกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA) เท่ากับ1 : 1.8 และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (PUFA) น้อยกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA)
5. มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวสูง (High Monounsaturated Fatty Acid)
คุณสมบัติที่ดีของกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวก็คือ สามารถลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ได้
จึงมีส่วนช่วยลดการอุดตันของผนังหลอดเลือดแดง ยังสามารถช่วยเพิ่มหรือคงระดับคอเลสเตอรอลตัวดี (HDL-C) ได้อีกด้วย
6. ค่ากรดไขมันทรานส์ เท่ากับ 0 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
จึงปลอดภัยต่อการบริโภค เพราะกรดไขมันทรานส์ เป็นกรดไขมันอันตรายที่ไปเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) และลดคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL-C) จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
7. มีจุดเกิดควันสูง (High Smoke Point)
ในการใช้น้ำมันประกอบอาหาร ทำอาหารทอดหรือผัด เมื่อใช้ไฟร้อนถึงระดับหนึ่งจะเกิดควันขึ้นมา ซึ่งมีอันตรายต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก มีการวิจัยที่ประเทศไต้หวันพบว่าควันจากน้ำมันมีสารประกอบในกลุ่ม Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogens) ที่ทำให้หญิงชาวไต้หวันที่ประกอบอาหารในบ้านป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงควรเลือกใช้น้ำมันประกอบอาหารที่มีจุดเกิดควันสูงสามารถทนต่อความร้อนได้ดี อย่างเช่น น้ำมันรำข้าวคิง ที่มีจุดเกิดควันสูงถึง 240 องศาเซลเซียส ซึ่งนอกจากจะเหมาะกับการใช้ทอดแล้ว ยังสามารถใช้น้ำมันรำข้าวคิงทำอาหารได้ทุกเมนู โดยไม่ต้องแยกน้ำมันให้ยุ่งยากอีกต่อไป
8. ไม่มีกลิ่น และรสชาติเป็นกลาง
จึงช่วยให้ได้กลิ่นและรสชาติแท้ๆ ของเครื่องปรุงและส่วนผสมอย่างเด่นชัดในอาหารทุกจาน
9. ไม่ใส่สารกันหืนสังเคราะห์
โดยทั่วไปสารกันหืนสังเคราะห์ เช่น BHA BHT และ TBHQ จะถูกเติมในน้ำมันประกอบอาหาร เพื่อป้องกันการออกซิเดชั่นที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นหืน แต่สารเหล่านี้อาจมีผลต่อเซลล์ในร่างกาย โดยเฉพาะสาร BHT มีคุณสมบัติเป็นตัวเสริมในการเกิดเนื้องอก และยังพบว่าทั้ง BHA และ BHT ต่างเป็นสารที่ส่งเสริมกระบวนการเกิดมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ หากสะสมในปริมาณมาก แต่ในน้ำมัน รำข้าวคิงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีในปริมาณมาก ได้แก่ โอรีซานอล ไฟโต - สเตอรอล และวิตามินอี ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันการออกซิเดชั่นโดยธรรมชาติ สามารถทนการเกิดหืนได้ดี น้ำมันรำข้าวคิงจึงไม่ต้องใส่สารกันหืนสังเคราะห์
10. ผลิตจากข้าวไทยที่ปลอดจากการดัดแปลงทางพันธุกรรม หรือปลอด GMOs
ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การรับรองว่าข้าวไทยปลอดจากการดัดแปลงทางพันธุกรรมจึงมั่นใจได้ว่ารำข้าวที่นำมาทำน้ำมันรำข้าวคิงปลอดภัยจาก GMOs ด้วยเช่นกัน
###