ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดงานประชุมนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในสิงคโปร์ สร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดงานประชุมนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในสิงคโปร์ สร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล

 

 

 

 

 

 

 ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดงานประชุมนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในสิงคโปร์ สร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล


ทั้งลูกค้า คู่ค้า และซัพพลายเออร์ กว่า 1,500 ราย ต่างระดมสมอง และร่วมแบ่งปันแนวคิดใหม่ๆ เพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลตลอดงาน 2 วัน
พร้อมอวดโฉมนวัตกรรมล่าสุดของสถาปัตยกรรม EcoStruxure ในแต่ละด้านที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง



ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น จัดงาน Innovation Summit ซึ่งเป็นงานประชุมด้านนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 20 -21 กันยายน 2561 ณ มารีนา เบย์ แซนด์ส ประเทศสิงคโปร์ โดยมีลูกค้า พันธมิตร และซัพพลายเออร์ รวมทั้งผู้บริหารชั้นนำในวงการอุตสาหกรรม มากกว่า 1,500 ราย ตบเท้าเข้าร่วมงาน โดยกิจกรรมครั้งนี้นับเป็นการรวมพลผู้เชี่ยวชาญจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค และผู้นำทางความคิดในโลกอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันแชร์มุมมองเชิงลึก และแนวคิดใหม่ๆ ที่ชัดเจน บนความความท้าทาย และโอกาส เพื่อเพิ่มขุมพลังขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล




เปิดตัวนวัตกรรมของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในเอเชียใต้
งาน Innovation Summit World Tour จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยครอบคลุมอีก 20 งานที่จัดขึ้นในทั่วโลก นับเป็นการจัดงานที่มีจำนวนมากกว่าปี 2017 ถึง 2 เท่า โดยงานที่จัดขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ในปีนี้ จะเป็นงานใหญ่ที่สุดที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเคยจัดมาในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งมีการโชว์เคส ถึงการพัฒนาล่าสุดของ EcoStruxure™ ที่เป็นสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มระบบเปิด ให้ศักยภาพด้าน IoT รองรับการใช้งานในลักษณะ plug and play สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นได้ไม่มีข้อจำกัด ซึ่ง แพลตฟอร์ม EcoStruxure™ นี้ จะเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ EcoStruxure™ ยังเป็นการยกระดับความก้าวหน้าในเรื่องของ IoT โมบิลิตี้ ระบบเซนเซอร์ คลาวด์ การวิเคราะห์ และระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ เพื่อมอบนวัตกรรมในทุกระดับ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ระบบควบคุมปลายทางไปยังแอปพลิเคชัน (Edge Control) การวิเคราะห์ และการบริการต่างๆ โดยที่ผ่านมา EcoStruxure™ ได้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 480,000 ไซต์งาน โดยผู้วางระบบและผู้พัฒนากว่า 20,000 รายที่ให้การสนับสนุน ซึ่งมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1.6 ล้านรายการ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการผ่านบริการด้านดิจิทัลมากกว่า 40 บริการ


การพัฒนา EcoStruxure หลักๆ ที่นำเสนอในงานครอบคลุมประเด็นต่อไปนี้
EcoStruxure Power อีกขั้นของสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มแห่งอนาคตของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ศักยภาพด้าน IoT  สำหรับการจ่ายไฟฟ้า โดยให้ขีดความสามารถมหาศาลในการจัดการพลังงานา ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและให้ความน่าเชื่อถือสูง พร้อมเปิดตัว EcoStruxure Power Advisor ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันใหม่สำหรับผู้ใช้งาน รวมถึง EcoStruxure Power Monitoring Expert 9.0 และ Power Scada Operation 9.0 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์บริหารจัดการที่ควบคุมอุปกรณ์ปลายทาง (edge control management software) พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ได้แก่ Prologic ION9000 Meter and Easergy P3 Protection Relay
EcoStruxure Building  สถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ออกแบบมาสำหรับอาคาร ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินการจัดการด้านอาคาร พร้อมเพิ่มความสะดวกสบาย ให้ผลลัพธ์ในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งมี EcoStruxure Building Advisor แอปพลิเคชันใหม่สำหรับผู้ใช้งาน รวมถึงระบบควบคุมการทำงานปลายทาง EcoStruxure Building Operation 2.0 ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ SmartX IP Controller MPx และ SmartX Room Sensors อีกด้วย
Ecostruxure Plant & Machine เป็นเทคโนโลยี IIoT ครอบคลุมถึง ซอฟต์แวร์ที่ผสานรวมการทำงาน ซึ่งพร้อมสำหรับกระบวนการผลิตอัจฉริยะ และมอบโอกาสใหม่ทางธุรกิจสำหรับโรงงาน และผู้ผลิตเครื่องจักร ช่วยเพิ่มผลกำไรด้วย EcoStruxure Triconex และเพิ่มผลผลิตที่ดีขึ้นด้วย EcoStruxure Machine Advisor
EcoStruxure Asset Advisor แอปพลิเคชันที่ให้บริการตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งเป็นบริการที่จำเป็นอย่างมาก ช่วยคาดการณ์ปัญหาล่วงหน้า โดยทำงานผ่านคลาวด์ ด้วยการอาศัยข้อมูลในแบบ 24/7 เพื่อช่วยสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจสำหรับการทำงานของอุปกรณ์สำคัญในดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงการจ่ายไฟฟ้า


แนวคิดที่ชัดเจนสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล
 “โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในประวัติการณ์ เนื่องจากความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเทคโนโลยีอย่างเช่น Internet of things (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) และการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า ช่วยให้บริษัทต่างๆ สร้างนวัตกรรมได้มากขึ้น ทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมความสามารถด้านการแข่งขัน” นายฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว “ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบ เราต้องการแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมของเราสามารถช่วยลูกค้าและคู่ค้า ก้าวสู่การปฏิรูปทางดิจิทัลได้สำเร็จ ทั้งในระบบออโตเมชัน และการจัดการพลังงาน  เทคโนโลยีของเราสร้างบนฐานของ EcoStruxure™ ที่ช่วยควบคุมอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล ช่วยให้ลูกค้าของเรากลายเป็นผู้นำในเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่มีทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น”


โดยตลอด 2 วันของการจัดงาน ลูกค้าต่างเข้าร่วมฟังการพูดคุยเชิงกลยุทธ์ (Strategy Talks) หลากหลายหัวข้อด้วยกัน เช่น ‘นิยามใหม่ของการกระจายพลังงาน’ ‘การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ช่วยสร้างระบบการผลิตที่ชาญฉลาด’ และ ‘อาคารในรูปแบบใหม่’ โดยบริษัทได้จัดการประชุมเฉพาะด้านต่างๆ มากกว่า 15 หัวข้อ สำหรับทั้งลูกค้าและคู่ค้า พร้อมนำเสนอกรณีศึกษาความสำเร็จของลูกค้าที่เป็นรูปธรรม รวมถึงโซลูชั่น พร้อมการอภิปรายที่เปิดให้มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมในลักษณะอินเตอร์แอกทีฟ นอกจากนี้ ยังมี การนำเสนอนวัตกรรมในรูปแบบ Innovation Hub บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร สำหรับการสาธิตผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ โซลูชัน และการบริการของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่หลากหลาย นอกจากนี้ ในงาน Innovation Summit ที่ประเทศสิงคโปร์นี้ ยังแสดงให้เห็นถึงพลังเครือข่ายที่เติบโตขยายไปอย่างต่อเนื่องของบริษัท ทั้งในด้านเทคโนโลยี และพันธมิตรคู่ค้า รวมถึงสตาร์ทอัพ โดยจะมีการนำเสนอโซลูชั่นจากพันธมิตร อาทิ ไมโครซอฟท์ แอคเซนเจอร์ ซิสโก้ ออโต้กริด แดนฟอสส์ ซอมฟี่ และ AVEVA เป็นต้น


เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ตั้งแต่ บ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมต่างๆ  ด้วยการยืนหยัดอยู่ในเวทีระดับโลกในกว่า 100 ประเทศ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้นำที่โดดเด่นในด้านการจัดการพลังงาน ทั้งแรงดันไฟฟ้าขนาดกลาง-ต่ำ และระบบสำรองไฟฟ้า รวมถึงระบบออโตเมชั่นต่างๆ เรานำเสนอโซลูชั่นแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของพลังงาน ระบบออโตเมชั่น และซอฟต์แวร์ เรามีระบบนิเวศทั่วโลก ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด รวมถึงชุมชนนักพัฒนาและผู้วางระบบบนแพลตฟอร์มเปิด เพื่อมอบประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน และการควบคุมในแบบเรียลไทม์ เราเชื่อว่าด้วยผู้คนที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ และพันธมิตรของเรา จะช่วยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเป็นบริษัทที่เยี่ยมยอด พร้อมกับคำมั่นสัญญาของเราที่มุ่งมั่นในเรื่องการสร้างนวัตกรรม ความหลากหลาย และความยั่งยืนช่วยให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า “Life is On” ในทุกที่สำหรับทุกคน และทุกช่วงเวลา www.schneider-electric.co.th