แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) จากไอเอฟซีภายใต้กลุ่มธนาคารโลก

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) จากไอเอฟซีภายใต้กลุ่มธนาคารโลก

 

 

 

 

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย

ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) จากไอเอฟซีภายใต้กลุ่มธนาคารโลก

ด้วยวงเงินกู้ 4,500 ล้านบาท (144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงาน
อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเงินทุนดำเนินธุรกิจของโรงแรมในเครือ
เพื่อยกระดับมาตรฐานโรงแรมไทย

 

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) จากบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ หรือไอเอฟซี (IFC) สมาชิกและหนึ่งในหน่วยงานภายใต้กลุ่มธนาคารโลก โดยในพิธีลงนามครั้งนี้ ไอเอฟซีอนุมัติวงเงินสินเชื่อจำนวน 4,500 ล้านบาท (หรือ 144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่ AWC เพื่อใช้ดำเนินมาตรการเพื่อการใช้น้ำและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในโครงการต่าง ๆ ปรับปรุงโรงแรมในเครือ 4 แห่ง และพัฒนาโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทย อันได้แก่ หัวหิน เกาะสมุย พัทยา และเชียงใหม่ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งของโรงแรมต่าง ๆ ที่ปิดชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “AWC มุ่งมั่นอย่างจริงจังต่อการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ลงนามในสินเชื่อสีเขียวร่วมกับ IFC เป็นครั้งแรกของประเทศไทย การได้รับอนุมัติสินเชื่อสีเขียวครั้งนี้คือข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องยาวนานของเราในการดำเนินแนวคิดด้านความยั่งยืนต่าง ๆ ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประหยัดพลังงาน และใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เราสามารถสร้างความพร้อมอย่างรวดเร็วเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของมาตรฐานอาคารสีเขียวซึ่งมี “ความเป็นเลิศในการออกแบบเพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า” หรือมาตรฐาน Excellence in Design for Greater Efficiencies: EDGE ของไอเอฟซี กับโครงการต่าง ๆ ในพอร์ตของเรา ตลอดจนส่งเสริมการนำมาตรฐาน EDGE มาใช้ให้แพร่หลายยิ่งขึ้นในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ก็เป็นการจุดประกายให้กับแวดวงธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เดินหน้าสู่อนาคตที่ดีขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น”

AWC นับเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่พัฒนาโครงการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน EDGE ซึ่งเป็นระบบการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวของไอเอฟซีที่พัฒนาขึ้นสำหรับประเทศเศรษฐกิจใหม่ โดยโรงแรมต่าง ๆ ในเครือ AWC จะเป็นโรงแรมกลุ่มแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่สำคัญให้กับแนวทางการก่อสร้างอาคารที่คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังในภาคการท่องเที่ยวของไทย

นายวิเวก พาทัค ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ไอเอฟซี กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของเราคือการส่งเสริมให้ AWC ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในประเทศไทย สินเชื่อสีเขียวเป็นการสนับสนุนภาพรวมของธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างเสริมให้ผู้นำธุรกิจในการพัฒนาพอร์ตโฟลิโอที่ให้ความสำคัญด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ AWC พร้อมสำหรับการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ออกตราสารหนี้สีเขียว (Green Bond) ในอนาคต และยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับการดำเนินธุรกิจของโรงแรมต่าง ๆ ภายหลังการปิดชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19”

สินเชื่อสีเขียวของไอเอฟซี ดำเนินการตามมาตรฐานของหุ้นกู้เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ของสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (International Capital Market Association: ICMA) โดย AWC มีแผนที่จะนำเงินกู้ดังกล่าวไปใช้ในการปรับปรุงและยกระดับเทคโนโลยีเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในโรงแรมในเครือหลาย ๆ แห่งทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ ปั๊มความร้อนแบบประหยัดพลังงานที่โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง และโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่, ประเทศไทย และการก่อสร้างโรงแรมใหม่สองแห่ง คือโรงแรม เจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ โฮเทล เอเชียทีค กรุงเทพ และโรงแรม อินน์ไซด์ กรุงเทพ สุขุมวิท ตลอดจนนำไปใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการทยอยกลับมาเปิดให้บริการของโรงแรมต่าง ๆ ในเครือซึ่งปิดชั่วคราวจากผลกระทบของโควิด-19 นอกจากนั้น ไอเอฟซียังช่วยเหลือ AWC ในการเสริมสร้างศักยภาพภายในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานอาคารสีเขียว เพื่อให้โรงแรมในเครือ AWC ได้รับการรับรองมาตรฐาน EDGE อย่างน้อย 5 โรงแรม

เงินทุนดังกล่าวยังส่งผลให้ AWC สามารถสร้างโอกาสในการจ้างงานใหม่ ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเป็นผลดีต่อห่วงโซ่คุณค่าในภาคอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยวของไทย โดยคาดว่าโรงแรมใหม่ในเครือสองแห่งจะสร้างงานได้ประมาณ 1,500 ตำแหน่ง และยังส่งผลให้เกิดการจ้างงานอื่น ๆ ในซัพพลายเชนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม เช่น บริษัทให้บริการแท็กซี่ และบริษัทนำเที่ยว ซึ่งผู้ที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนของ AWC เกือบ 100% ล้วนเป็นผู้ประกอบการในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ของสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ต่างได้รับประโยชน์จากความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพที่เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยที่มุ่งสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงขึ้น

AWC และพันธมิตรทางธุรกิจยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทีมงานฝ่ายบริหารโดยการพัฒนาทักษะของพนักงาน และสับเปลี่ยนโยกย้ายพนักงานเพื่อสร้างความก้าวหน้าในการทำงาน ควบคู่กับการนำแนวคิดด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาใช้ในระดับปฏิบัติการ บริษัทยังทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง เพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับผู้ประกอบการโรงแรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก

นอกจากนั้น AWC ยังเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมและสังคมถึง 3 มาตรฐาน โดยมีนโยบายด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย (Environmental, Health, and Safety - ESMS) ในระดับองค์กรที่นำไปใช้ในทุกหน่วยธุรกิจของบริษัท โดยนโยบาย ESMS ของบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 (ด้านการจัดการคุณภาพ), ISO 14001 (ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม) และ ISO 45001 (ด้านการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย) โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือ ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกของโลกที่ได้รับการรับรอง มาตรฐาน ISO 20121 ด้านการวางแผนและการจัดงานแบบยั่งยืน อีกด้วย

โดยพิธีลงนามรับการอนุมัติสินเชื่อสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ เรือสิริมหรรณพ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ด้านการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เทียบท่าถาวรที่โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โดยบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) นำโดยนางวัลลภา ไตรโสรัส (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และดร.กานต์ ปฏิเวธวรรณกิจ (ซ้าย) หัวหน้าคณะสายงานบัญชีและการเงิน (CFO) ลงนามร่วมกับบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ หรือ IFC  โดย มิสเตอร์วิกราม คูมาร์ (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภค และทรัพยากรธรรมชาติภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

 

Asset World Corporation is Thailand’s First Real Sector Company
to Receive a Green Loan from the World Bank Group’s IFC

THB 4.5 billion (US$144 million) green loan will be allocated for energy efficiency initiatives and working capital at AWC-affiliated hotels to reshape Thai hospitality market

Asset World Corp Public Company Limited (AWC), Thailand's leading integrated lifestyle real-estate group, is the first real estate group in the country to receive a green loan from the International Finance Corporation (IFC), a member of the World Bank Group. During today’s signing ceremony, IFC granted AWC a proposed investment of THB 4,500 million (equivalent of US$144 million) to be used toward water and energy efficiency measures and the refurbishment of its four hotels and greenfield development of two new hotels in key tourism destinations in Thailand including Bangkok, Hua Hin, Koh Samui, Pattaya, and Chiang Mai. Part of the green loan will be applied as working capital to support the gradual re-opening of hotels following shutdowns related to COVID-19.

Wallapa Traisorat, CEO and President of Asset World Corp Public Company Limited (AWC), said that “AWC is truly committed to ecologically sustainable value. We are greatly delighted to sign the first IFC’s green loan in Thailand. This green loan agreement is a testimonial to our long-standing unwavering determination to sustainability initiatives focusing on reducing carbon emissions, saving energy, and optimizing resource utilization. These help us accelerate the readiness to adopt the IFC’s Excellence in Design for Greater Efficiencies (“EDGE”) green building standards in our asset portfolio as well as promote the use of the EDGE standards in Thailand all whilst rebuilding an invigorating hospitality and tourism landscape in Thailand for a better and more sustainable future.” 

AWC is the first company in Thailand to develop projects in accordance with EDGE standards, IFC’s green building certification system created for emerging markets. AWC’s hotels will become the first in Thailand to be EDGE-compliant, establishing the viability of green construction for the tourism sector.

“Our goal is to help Asset World Corporation become a leader in sustainable tourism in Thailand,” said Vivek Pathak, IFC’s Regional Director for East Asia and the Pacific. “The project will not only support the long-term green recovery in the tourism sector by enabling a market leader to build up its green asset portfolio and position for the issuance of the first real sector green bond in Thailand, but also provide immediate liquidity relief to support ongoing hotel operations during COVID-19.”

IFC’s green loan is expected to be compliant with the International Capital Market Association (ICMA) Green Bond Principles. AWC expects to use the funds for green retrofitting and refurbishment of energy efficiency technologies in its several hotel properties throughout Thailand. These include rooftop solar installation, installation of heat pumps for hot water for Intercontinental Chiang Mai Mae Ping Hotel and Melia Chiang Mai, Thailand, construction of two new greenfield hotels i.e., JW Marriott Marquis Hotel Asiatique Bangkok and Innside Bangkok Sukhumvit Hotel. The fund will also be used as working capital to support the gradual re-opening of AWC affiliated hotels following temporary closures brought about by the pandemic. Through the proposed financing, IFC will also help AWC in building internal capacity with regard to green building and obtain EDGE certification for at least five hotels.

AWC is also expected to provide direct and indirect employment opportunities in Thailand as well as underlying benefits across the country’s hospitality and tourism value chain. Approximately 1,500 direct jobs will be created for the company’s two new hotels as well as indirect jobs in the hotel’s supply chain and related linkages such as taxi companies and tour guides. Almost 100% of AWC suppliers are domestic, including local suppliers of goods and services who will benefit from greater demand for better quality products and services in line with Thailand’s objectives to move toward higher value tourism products. 

AWC and its global partners/operators are also committed to developing managerial staff by upskilling its employees, and the mobility of these employees to progress in the services sector, as well as enforcing our green initiatives at operational level. AWC has also worked with local suppliers, many of which are small and medium size enterprises, to improve product quality and meet the standards of the globally renowned hotel operators.

AWC is also the first company in Thailand to be certified with 3 Environmental and Social Management System (ESMS) standards. The company has a set of EHS (Environmental, Health, and Safety) policies and an ESMS at the corporate level applied to all business sectors. The corporate ESMS has been certified with ISO 9001 (quality management), ISO 14001 (environment management) and ISO 45001 (Occupational health and safety management). The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok, one of AWC’s affiliated hotels, is also the first hotel in the world to achieve ISO 20121 Event Sustainability Management System (SMS) standard certification.

The signing ceremony for the first IFC’s green loan was recently held at the Sirimahannop Tall Ship, a new tourism landmark on the Chao Phraya River at Asiatique The Riverfront, by Asset World Corp Public Company Limited. The company’s CEO and President Wallapa Traisorat,(center) and CFO Dr. Karn Prativedwannakij (left) signed with the International Finance Corporation (IFC) represented by Vikram Kumar (right), New Business Manager, Infrastructure and Natural Resources, Asia Pacific.