แถลงข่าว “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 4 ประจำปี 2563”

แถลงข่าว “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 4 ประจำปี 2563”

 

 

 

 

 

 มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ร่วมกับ แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า กระทรวงสาธารณสุข 
และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 8 (ปธพ.8) 
แถลงข่าว “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 4 ประจำปี 2563” กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย.2563

ณ โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย และโรงพยาบาลสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ระดมบุคลากรทางการแพทย์

กว่า 500 คน ตั้งเป้าช่วยคนไข้ 50,000 ราย

 

วันนี้ (14 ต.ค.63 ) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ร่วมกับ แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า กระทรวงสาธารณสุข นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 8 (ปธพ.8) และภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงข่าวโครงการ “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 4 ประจำปี 2563” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ เป็นประธานโครงการฯ ร่วมกับแพทยสภา และกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสภานายกพิเศษแพทยสภา เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว พร้อมด้วยศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา แพทย์หญิงเจรียง จันทรกมล ประธานดำเนินงานโครงการแพทย์อาสาฯ ปธพ. 8 นายแพทย์ปรีชา วาณิชยเศรษฐกุล ประธานหน่วยแพทย์อาสาฯ (Med) นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกิจกรรมหน่วยสนับสนุนแพทย์อาสาฯ (Non-Med) และพลอากาศตรี นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และผู้อำนวยการหลักสูตรฯ ร่วมแถลงข่าว“โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 4 ประจำปี 2563” ซึ่งเป็นการจัดหน่วยแพทย์ขนาดใหญ่ระดับประเทศที่มี “แพทยสภา” เป็นแกนนำ โดยใช้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขและเครือข่ายของระบบสาธารณสุข

 

โดยร่วมบูรณาการร่วมกันทั้ง 5 กระทรวง บริหารจัดการโดยนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 8 เป็นงานจิตอาสาที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของแพทย์ทั้ง 4 เสาหลัก คือ ผู้บริหารแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ จากกระทรวงสาธารณสุข จากภาครัฐคือหน่วยงานแพทย์ 4 เหล่าทัพ และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งผู้บริหารแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชน เพื่อแสดงพลังการรวมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และจิตอาสาภาครัฐและเอกชน โดยในครั้งนี้ได้ระดม 19 คลินิกแพทย์เฉพาะทาง และคลินิกที่ไม่ใช่การแพทย์ 2 คลินิก มีแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล และ เภสัชกร เข้าร่วมกว่า 500 คน จากหลายสถาบันการแพทย์ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ท้องถิ่นขาดแคลน ให้บริการตรวจ-รักษา ผ่าตัด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งเป้าช่วยดูแลคนไข้ 50,000 ราย กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน นี้ ณ โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย และโรงพยาบาลสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นราชธานีแห่งแรกและเป็นรากฐานของชาติไทย

 

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.)ของแพทยสภา ที่มีต้นกำเนิดมาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานต่อวงการแพทย์ ว่าให้แพทย์ “อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกใคร” นำมาสู่แนวคิด
จัดโครงการให้เป็นรูปธรรม โดยได้ร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้านำ “ธรรมาภิบาล” มาเป็นหลักในการสร้างหลักสูตร และสร้างกิจกรรมแพทย์อาสาให้บรรลุตามแนวทางพระราชดำรัสดังกล่าว

 

ทั้งนี้ นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 8 (ปธพ.8) ได้มีการดำเนินงานกิจกรรมแพทย์อาสา มาแล้วจำนวน 2 ครั้ง คือ โครงการหน่วยแพทย์อาสาถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดบำเพ็ญเหนือ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2562 และโครงการแพทย์อาสาสัญจร ที่โรงพยาบาลอ่างทอง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563

 

 

สำหรับโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ เดิมทีกำหนดจัดกิจกรรมในวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2563 แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดระบาด จึงได้เลื่อนการจัดเป็นวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563 แม้ว่าสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วแต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม ถึงเดือน ตุลาคม 2563 ได้ดำเนินการตรวจรักษาล่วงหน้าและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการให้ความรู้ดูแลสุขภาพ ให้กับชาวจังหวัดสุโขทัยและพื้นที่ใกล้เคียงไปแล้ว กว่า 50,000 ราย ได้แก่ คลินิกศัลยกรรมทั่วไปและทางเดินปัสสาวะ 11 ราย คลินิกจักษุ 264 ราย คลินิกทางเดินอาหาร 175 ราย คลินิกตรวจสุขภาพพระสงฆ์ 500 รูป คลินิกคัดกรองโรคปอด 45,000 ราย คลินิกคัดกรองผลเลือด 3,000 ราย และคลินิกสอน CPR 2,000 ราย รวมจำนวนทั้งสิ้น 50,950 ราย ซึ่งยังไม่นับรวมกับประชาชนที่จะมารักษาในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งกำหนดไว้ จำนวน 5,000 ราย รวมทั้งสิ้นในการดูแลรักษาผู้ป่วยในโครงการ ปี 2563 เป้าหมาย 56,000 ราย นอกจากจะจัดให้บริการคลินิกทางการแพทย์ทั้ง 2 วันแล้ว โครงการฯ ยังมีจิตอาสาจากหลากหลายองค์กรเข้ามาร่วมสนับสนุน อาทิ กลุ่มบริษัท ปตท. ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลปิยะเวท โรงพยาบาลบางปะกอก 9 โรงพยาบาลรัตนิน บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบพเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น และยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีก ได้แก่ การมอบทุนการศึกษาแก่เด็กดีมีคุณธรรม กิจกรรมให้ความรู้ ให้คำปรึกษาทางการเงินและกฎหมาย กิจกรรมมอบขาเทียม และรถเข็นแก่คนพิการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ กิจกรรมมอบหน้ากากสำหรับเด็ก และในวันงานทั้ง 2 วัน ยังมีซุ้มอาหารอร่อยๆ จากสุโขทัยมาให้บริการแก่คนไข้ ญาติคนไข้ และจิตอาสาทุกท่านด้วย

 

โครงการแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ โดยหลักสูตร ปธพ. ได้จัดมาแล้วทั้งสิ้น จำนวน 7 ครั้ง ได้ให้การรักษาดูแลผู้ป่วยในระดับตติยภูมิไปแล้ว จำนวน 68,793 ราย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี โรงพยาบาลอานันทมหิดล จังหวัดลพบุรี โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใด ๆ ทั้งสิ้น สำหรับครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 8 ได้ทำการตรวจไปแล้ว จำนวน 50,950 ราย และจะตรวจในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน 2563 เป้าหมาย 5,000 ราย ให้แก่ประชาชนจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นคนไข้โรคเฉพาะทาง ทั้ง 21 คลินิก ซึ่งสามารถติดต่อขอเข้ารับการรักษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ณ โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย และโรงพยาบาลสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย